วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

Top 10 ฟรีโปรแกรม Utility ที่ต้องมี

ทำความรู้จักโปรแกรม Utility สักนิด

หลายๆ คนอาจยังไม่เข้าใจว่าโปรแกรม Utility คืออะไร และเพื่อให้เข้าใจตรงกัน ก่อนที่กล่าวถึงรายละเอียดต่อไป ขอแนะนำให้ทราบว่า Utility หรือโปรแกรมอัตถประโยชน์ เป็นโปรแกรมเสริมในการใช้งานคอมพิวเตอร์ให้สะดวกมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างโปรแกรม Utility ที่ใช้งานกันเป็นประจำ เช่น Winzip, PDFCreator เป็นต้น วันนี้จึงขอแนะนำโปรแกรม Utility ดีๆ ที่ควรมีไว้ประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ของเราทุกคน บางโปรแกรมสามารถเก็บไว้บน Flash Drive ได้ด้วย



Top 10 Freeware Utility Program?

No.
ชื่อโปรแกรม
รายละเอียดความสามารถ
1
7-Zip
โปรแกรมสำหรับบีบอัดข้อมูล และเปิดดูไฟล์ รองรับไฟล์ประเภท Zip, RAR ไฟล์
2 CCleaner โปรแกรมช่วยตรวจสอบ ลบขยะภายในเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมความสามารถอื่นๆ อีก เช่น Uninstall, เช็ค Registry เป็นต้น
3 Client for
Google
Translate
ตัวช่วยแปลภาษา สามารถติดตั้งในเครื่องคอมฯ และเช็คผ่านออนไลน์ได้ รองรับการใช้งานแปลภาษาจากInternet, E-mail, Microsoft Word, Excel และอื่นๆ อีกมากมาย
4
LockNote
โปรแกรมช่วยเก็บรหัสผ่าน สำคัญๆ ใช้งานง่าย
5
MPCStar
โปรแกรมสำหรับดูหนัง ฟังเพลง รองรับไฟล์วีดีโอทุกประเภท
6 PDFCreator โปรแกรมสำหรับการแปลงไฟล์จากทุกประเภทเป็น PDF เหมาะสำหรับการส่งไฟล์ผ่านอีเมล รวมทั้งเพิ่มระบบ security ให้ไฟล์ด้วย
7
PicPick
Tools
เป็นโปรแกรมมากกว่าการจับภาพหน้าจอ หรือ Capture เพราะมีเครื่องมืออื่นๆ เสริมให้ด้วยอีกหลายอย่าง แถมยังเป็น Portable โปรแกรม ที่ไม่จำเป็นต้องติดตั้งลงในเครื่องคอมฯ แต่อย่างใด
8 Panda
USB
Vaccine
โปรแกรมยกเลิก Autorun เพื่อป้องกันไวรัส Autorun โดยเฉพาะ (ต้องมี)
9 avast!
Home
Antivirus
ฟรีโปรแกรมกำจัดไวรัส และสปายแวร์ ในตัวเดียวกัน
10 CDBurnXP โปรแกรมสำหรับการ write แผ่น หรือ burn แผ่น CD ในประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการ burn แบบ Audio, Image, VCD/DVD เป็นต้น
?
  • ข้อย้ำว่า โปรแกรมดังกล่างข้างต้น เป็นฟรีโปรแกรมที่สามารถนำไปใช้งานได้ฟรี แบบไม่มีจำกัด ถ้าต้องการโปรแกรมเหล่านี้ ให้พิมพ์ชื่อโปรแกรมที่ต้องการในช่อง "Search" ของเว็บไซต์ของเรา (มุมบนขวามือของคุณ)
  • โปรแกรมในข้อ 8 และ 9 สามารถใช้งานร่วมกันได้

รวมมิตรโปรแกรมดูหนังฟังเพลง

สำหรับหลายๆ คนที่มีปัญหาเปิดไฟล์หนัง DVD ไม่ได้ ทั้งๆ ที่ไดร์ซ CD ของเราก็รองรับแผ่น DVD แต่ทำไมยังเปิดไม่ได้อีก นอกจากนี้ยังรวมทั้งไฟล์ประเภทต่างๆ จากอินเตอร์เน็ตที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เปิดไม่ได้อีกเช่นกัน

สาเหตุหลักที่ทำให้เราเปิดไฟล์ หลายๆ ประเภทไม่ได้ นั่นคื่อ Codec หรือตัวช่วยในการแปลง code ของไฟล์ media ประเภทต่างๆ เหล่านี้ เช่น ไฟล์ของ QuickTime ที่เราสามารถพบได้จากเว็บของ Apple.com เป็นต้น ดังนั้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาเหล่านี้ เราสามารถติดตั้ง รวมมิตร Codec เลย หรืออาจจะใช้โปรแกรม Media Player ของค่ายต่างๆ ที่มีการรองรับการแปลง code เหล่านี้ก็ได้เช่นกัน

สุดยอดโปรแกรมดูหนังฟังเพลง - Codec & Media Player

  1. K-Lite Mega Codec Pack แค่ลงโปรแกรมตัวนี้แล้ว โปรแกรมดูหนังฟังเพลงของเรา เช่น Windows Media Player ก็สามารถดูหนังได้เกือบทุกประเภทเลย เป็นต้น แถมที่สำคัญมากๆ คือ เป็นของฟรีครับ (ผมก็ใช้ตัวนี้เป็นประจำครับ)
  2. MPCStar ตัวนี้เป็นอีกโปรแกรมหนึ่งที่รองรับไฟล์ media ประเภทต่างๆ ไว้มากมาย แถมมีตัวโปรแกรมสำหรับเล่นด้วย
  3. DivX Player เป็น Codec ตัวหนึ่งที่นิยมใช้กันมากในปัจจุบัน ให้ภาพคุณภาพสูงระดับ HD แต่มีขนาดไฟล์ที่ไม่ใหญ่มากนัก สามารถ download ตัวที่เป็น player ได้ฟรี
  4. Winamp อาจไม่ต้องแนะนำโปรแกรมสำหรับดูหนัง ฟังเพลงตัวนี้เลย เคยฮิตแบบสุดๆ ในบ้านเมืองของเรา
  5. GOM Media Player เป็นทั้ง Codec และ Media Plyaer ในตัว รองรับไฟล์ media หลากหลายเช่นกัน ได้แก่ AVI, DAT, MPEG, DivX, XviD, WMV, ASF เป็นต้น
  6. VLC Media Player รองรับไฟล์ Media หลากหลายเช่นกัน (MPEG-1, MPEG-2, MPEG-4, DivX, mp3, ogg, ..) อีกตัวหนึ่งที่นิยมมาก
  7. Windows Media Player ของ Microsoft ครับ ใครๆ ก็รู้จัก เพราะแถมมากับ Windows ทุกเวอร์ชั่น แถมอัปเดทผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้ฟรี
ลองเลือกกันดูเอาเองได้เลยน่ะครับ ของฟรีดีๆ ที่มีให้บนโลกอินเตอร์เน็ตใบน้อยๆ นี้

Top 10 Free Antivirus Download

อัพเดทใหม่ล่าสุด June 2010


ใครกำลังมองหาฟรีโปรแกรมแอนตี้ไวรัส เชิญทางนี้ ! เพื่อให้ง่ายในการเลือกใช้โปรแกรมฟรี สำหรับการตรวจสอบ กำจัดไวรัส เรามีข้อมูลจากเว็บไซต์ Download.com ซึ่งเป็นของในนามบริษัท CBS Interactive Inc. หรือที่เรารู้จักกันในนาม cnet ข้อมูลนี้เราคัดเฉพาะเป็นฟรีโปรแกรมกำจัดไวรัส เท่านั้น ไม่รวมถึง ไฟล์ที่ใช้สำหรับการ update โปรแกรม anti-virus น่ะครับ



Top 10 Download Free Antivirus

  1. AVG Antivirus Free Edition - อันดับหนึ่งมานานมาก !!
  2. Avast Home Edition - ตัวนี้ก็ลองใช้แล้ว น่าสนใจมากแค่ register ง่ายๆก็สามารถใช้งานได้ฟรี 1 ปี
  3. Avira AntiVir Personal Free Edition - ดี แต่มี pop up โฆษณา ขนาดใหญ่
  4. Panda Cloud Antivirus Free - น้องใหม่มาแรงสุดๆ
  5. PC Tools AntiVirus Free Edition - ใช้ได้ดีพอสมควร
  6. Microsoft Security Essentials - จากค่ายยักษ์ใหญ่ ไมโครซอร์ฟ
  7. A-squared Free
  8. ThreatFire AntiVirus Free Edition
  9. Avast Antivirus Cleaner Tool
  10. Multi Virus Cleaner 2008
ที่ว่า download มากๆ นั้นหมายถึง อยู่ในระดับ 100 ล้านครั้งเลยทีเดียว อย่างนี้ สำหรับคนชอบใช้ของฟรี คงช่วยได้มากเลย ใช่ไหมครับ

คำแนะนำเพิ่มเติมในการเลือกใช้ Free Antivirus

  1. ความน่าเชื่อถือ สามารถตรวจสอบได้จากจำนวนที่มีผู้ download
  2. ความรวดเร็วในการอัพเดท เนื่องจากไวรัสมีการอัปเดทตลอดเวลาเช่นกัน ดังนั้น โปรแกรมแอนตี้ไวรัสที่ดีก็ควรอัพเดทอย่างสม่ำเสมอด้วย อย่างน้อย 1-2 วันครั้ง และน้อยที่สุดควรอัพเดทสัปดาห์ละครั้ง
  3. เลือกที่เป็น Freeware ไม่ใช่ Shareware เพราะ Freeware สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีกำหนด
  4. โปรแกรมที่ดี ควรสามารถอัพเดทโปรแกรมเวอร์ชั่นใหม่ๆ ได้อัตโนมัติ
  5. โปรแกรมที่ดี ควรสามารถสั่ง Scan แบบอัตโนมัติ หรือตั้งเวลา Scan ได้ด้วย
  6. และที่เป็นพื้นฐานที่ต้องมี ต้องสามารถ Scan และกำจัดไวรัสตัวใหม่ๆ ได้ด้วย