แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เก็บเรื่องมาเล่า แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย เก็บเรื่องมาเล่า แสดงบทความทั้งหมด

วันจันทร์ที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2558

45 ข้อคิดดีๆ เพื่อสิ่งดีๆในชีวิต



1.อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตัวเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน

2.ดูแลบิดา มารดาให้ดี มีโอกาสรีบทำซะก่อนจะไม่มีท่าน

3.เมื่อมีเรื่อง จงหมั่นปรึกษาผู้อื่น และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย

4.ร่างกายไม่ใช่เครื่องจักร ให้มันพักผ่อนซะบ้าง

5.สิ่งที่แข็งที่สุด เอาชนะได้ด้วยสิ่งที่อ่อนที่สุด

6.เมื่อประตูบานหนึ่งปิด อีกบานหนึ่งก็เปิด แต่บ่อยครั้งที่เรามัวแต่จ้องประตูบานที่ปิด จนไม่ทันเห็นว่ามีอีกบานเปิดอยู่

7.กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุณเอง

8.อารมณ์ขันเป็นสิ่งที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่ช่วยรักษาสิ่งอื่นได้ เพราะทันทีที่เกิดอารมณ์ขัน ความรำคาญและความ

ขุ่นข้องจะจางหายไป กลับกลายเป็นความแจ่มใสของจิตใจเข้ามาแทนที่

9.อย่ากลัว ที่จะนั่งหยุดพัก เพื่อคิด

10. 1 นาทีที่คุณโกรธ เท่ากับว่าคุณได้สูญเสีย 60 วินาทีแห่งความสงบในจิตใจไปแล้ว

11.หนทางเดียวที่จะรักษาภาพพจน์ได้คือการซื่อสัตย์ตลอดเวลา

12.Oxygen สำคัญต่อปอดฉันใด ความหวังก็เป็นฉันนั้นต่อความหมายของชีวิต

14.ความอดทน คือ เพื่อสนิทของสติปัญญา

15.ในธรรมชาติไม่มีสิ่งใดดีพร้อม แต่ทุกอย่างก็สมบูรณ์แบบในตัวเอง ต้นไม้อาจบิดเบี้ยวโค้งงออย่างประหลาด แต่ก็ยังคงความงดงาม

16.มักพูดกันว่า กาลเวลาเปลี่ยนทุกสิ่ง แต่จริงๆแล้ว คุณต้องเปลี่ยนทุกสิ่งด้วยตนเอง

17.จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร ที่ทำอยู่มีผลดีผลเสีย มีประโยชน์หรือไร้ประโยชน์

18.อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า

19.อย่าอ่านข้อความที่มีประโยชน์เพียงผ่านๆ อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่นพัฒนาตนเอง

20.รู้จักแบ่งเวลาและหน้าที่ ทำประโยชน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง

21.อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง อย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้หรือเปลี่ยนแปลงมันได้

22.อย่าเสียใจกับสิ่งที่เลวร้ายหรือสูญเสียไปแล้ว มันไม่กลับมา แต่คุณสามารถทำมันใหม่ หรือเรียนรู้จากมันได้

23.ให้อภัยแก่ตนเองและผู้อื่น คนไม่ผิดคือคนที่ไม่เคยทำอะไร

24.อย่าเห็นแก่ตัว จงเป็นฝ่ายให้มากกว่ารับ

25.คำพูดให้กำลังใจคนได้ ปลอบใจได้ ยุให้ทะเลาะกันได้ ทำให้เสียความรู้สึกได้ จงรู้จักที่จะพูด

26.คุณซื้อนาฬิกาได้ แต่คุณซื้อเวลาไม่ได้ ตอนนี้มีใครคอยคุณอยู่หรือเปล่า? ถ้ามีก็กลับไปหาซะ

27.อย่าคิดว่าตนเองเป็นคนที่โชคร้ายที่สุด และอย่าคิดว่าตนเองเป็นคนที่โชคดีที่สุด

28.ปริศนาในเกมคุณแก้ได้ แล้วทำไมปริศนาในชีวิตคุณแก้ไม่ได้ ในเมื่อบทสรุปก็อยู่ในตัวคุณเอง?

29.มีเรื่องราวอีกมากมายที่ไม่ได้เขียนลงในหนังสือ ลองค้าคว้าดูเองแล้วจะรู้

30.ลูกธนูที่ถูกปล่อยออกจากคันธนู อันตรายน้อยกว่าหอกที่แทงมาจากข้างหลัง

31.ตัวคุณมีค่าอยู่แล้ว อยู่ที่คุณรู้จักดึงมันออกมาใช้ได้รึเปล่า?

32.หาความสุขของตัวเองให้เจอ หัดมีความสุขซะบ้าง เราลืมอดีตไม่ได้แต่เราเลิกคิดได้

33.บางครั้งการอยู่คนเดียวก็ไม่ได้ “เลวร้าย” เสมอไป

34.สิ่งที่คุณปล่อยผ่านๆไปในชีวิต หรือเรื่องที่คุณเห็นว่าไม่สำคัญ ลองกลับมาดูแลตรงนั้นบ้างก็ดี

35.ไม่มีมิตรถาวร และศัตรูที่แท้จริง

36.จงทำวันนี้ให้ดีที่สุดเพื่อตัวเราเอง คนที่เรารัก และคนที่อยู่รอบกายเรา

37.เมื่อคิดจะทำอะไร หากคิดมากไป แล้วเมื่อใดจะได้ลงมือทำ

38.อย่าปล่อยโอกาสให้ผ่านไป โดยที่ยังไม่พยายาม

39.หากอยากประสบความสำเร็จ จงทำงานที่ตัวเองถนัด อย่าหวังพึ่งพาผู้อื่น

40.งานหนักเพียงใด หากทำด้วยใจและความสุข เราแทบจะไม่รู้สึกเหนื่อยเลย

41.จิตจะสงบได้อย่างไร หากมัวแต่ใส่ใจคำพูดของคนอื่น

42.มองโลกในแง่ดี ชีวิตจะมีความสุข

43.ทำอะไรจงทำให้ดี เพราะจะไม่มีคำว่าเสียใจในสิ่งที่ทำ

44.ความกตัญญู คือ คุณค่าของคนที่น่านับถือ

45.จงทำตัวให้มีประโยชน์ต่อสังคมและแผ่นดิน

ที่มา : นิตยสารกุลสตรี

"11 สิ่ง ที่โรงเรียนไม่ได้สอนคุณ"

"11 สิ่ง ที่โรงเรียนไม่ได้สอนคุณ"

ข้อ 1
ชีวิตไม่เคยยุติธรรม ชินกับมันซะ

ข้อ 2
โลกไม่เคยแคร์กับความมั่นใจในตัวเองของคุณ โลกหวังจะเห็นความสำเร็จจากคุณก่อนที่คุณจะภูมิใจอะไรกันนักกันหนากับตัวคุณ

ข้อ 3
ทันที ที่คุณจบจากม.ปลาย คุณจะไม่สามารถหาเงินได้เดือนละแสน และคุณก็ไม่สามารถเป็นรองประธานบริษัทที่มีรถประจำตำแหน่งได้ จนกว่าคุณจะคู่ควรที่จะได้สิ่งเหล่านี้

ข้อ 4
ถ้าคุณคิดว่าครูคุณเขี้ยวแล้วหละก็ คุณต้องลองเจอกับเจ้านายในอนาคตของคุณซะก่อน

ข้อ 5
งานกระจอกไม่ได้ทำให้คุณด้อยค่า บางทีปู่คุณอาจเคยเป็นนายกระจอกมาก่อน เขาเรียกมันว่า โอกาส

ข้อ 6
ถ้าคุณห่วย อย่าโทษพ่อแม่คุณ แล้วก็อย่าบ่นโวยวายกับความผิดพลาดของคุณ เรียนรู้จากมันซะ

ข้อ 7
ก่อน ที่คุณจะเกิด พ่อแม่คุณไม่ได้น่าเบื่อแบบที่เค้าเป็นทุกวันนี้หรอก แต่เป็นเพราะเค้าทำงานหาเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายให้คุณ ซักผ้าให้คุณ ฟังคุณคุยโวต่างๆนาๆต่างหาก ดังนั้นก่อนจะไปอนุรักษ์ป่าไม้ ลองจัดตู้เสื้อผ้าในห้องคุณก่อนดีมั๊ย

ข้อ 8
โรงเรียน อาจจะแบ่งคนออกเป็นผู้แพ้ผู้ชนะได้ แต่ชีวิตไม่เป็นแบบนั้น ในบางโรงเรียนสอนให้คุณแพ้ แถมยังให้โอกาสตั้งหลายครั้งกว่าคุณจะทำถูก นี่มันไม่ได้เหมือนชีวิตจริงเอาซะเลย

ข้อ 9
ชีวิต ไม่ได้แบ่งเป็นเทอม ไม่มีช่วงซัมเมอร์ แล้วเจ้านายส่วนใหญ่ก็ไม่ได้สนใจจะให้คุณปิดเทอมไปค้นหาชีวิตคุณหรอกนะ ถ้าจะไปค้นหาอะไร ทำซะเดี๋ยวนี้ด้วยเวลาที่คุณยังมี

ข้อ 10
สิ่งที่คุณเห็นในละครทีวี มันไม่ได้เป็นจริงหรอกนะ เพราะคนส่วนใหญ่รีบดื่มรีบกินแล้วก็ไปทำงาน

ข้อ 11
ทำตัวดีดีกับพวก เนิร์ด เพราะบางทีคุณอาจเป็นลูกน้องเค้าก็ได้

เครดิตบทความดัดแปลงและแปลโดย: Success Story

วันเสาร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

เปลือกมังคุดช่วยรักษาแผลเบาหวาน

ในตารายาแผนโบราณกล่าวว่า ให้ใช้เปลือกมังคุดต้มเอาน้าฝาดหรือฝนกับน้าปูนใส เอาน้าฝาดที่ได้ชะล้างบาดแผล แสดงว่าในเปลือกมังคุดน่าจะมีสารที่มีฤทธิ์ในการต่อต้านจุลินทรีย์พวกแบคทีเรียซึ่งเป็นต้นเหตุสาคัญของบาดแผลเรื้อรัง

วิธีทำ
ใช้เปลือกมังคุดหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ นำไปตากแดดให้แห้งแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำมาผสมกับน้ำปูนใส นำสำลีชุบน้ำปูนใสที่ผสมกับเปลือกมังคุดบดมาปิดทับแผลไว้ ทำเช่นนี้วันละครั้งไปเรื่อย ๆ

เคมีงานวิจัยจากโรงพยาบาล โรงพยาบาลค าม่วง จังหวัดกาฬสิน
ธุ์ ผลการวิจัยพบว่า ผู้ป่วยเบาหวานที่เป็นแผลเรื้อรัง จานวน 10 คน ส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 60.0 มีอายุส่วนใหญ่ อยู่ระหว่าง 70 – 79 ปี ร้อยละ 40.0 รองลงมา อายุ 50 – 59 ปี ร้อยละ 30.0 มีชนิดของแผลเรื้อรัง เป็นแผลเกิดจากการอักเสบติดเชื้อ ร้อยละ 40.0 รองลงมา เป็นแผลผิวหนังแห้งแตก ร้อยละ 30.0 และแผลที่มีเนื้อเน่าตายจากการติดเชื้อ ร้อยละ 20.0 ส่วนตาแหน่งแผลที่พบส่วนใหญ่ พบที่เท้า ร้อยละ 90.0 หลังจากรักษาผู้ป่วยแผลเรื้อรังโดยทาการล้างแผลด้วยน้าต้มสารสกัดเปลือกมังคุด พบว่า แผลมีแนวโน้มเป็นไปในทางบวกแผลหายทั้งหมด

ขอขอบคุณข้อมูลจาก หมอบ้านบ้าน
                


วันอาทิตย์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2558

สำหรับใครที่เกิด 2510 – 2530



1.คุณเป็นรุ่นสุดท้ายที่ได้เล่นมอญซ่อนผ้า กระโดดยาง รีรีข้าวสาร เป่าก.บ ฯลฯ โดยไม่ต้องไปหาดูตามงานวัดหรืองานแสดงศิลปวัฒนธรรม

2. คุณเกิดมาร้องเพลง ขอมอบดอกไม้ในสวนได้ทันในยุคที่พี่แจ้ นกแล นิธิทัศน์ยังดัง และเมื่อโตขึ้น คุณก็ยังไม่แก่เกินไปที่จะฟังดีทูบี

3.คุณได้เห็นคาราบาวยุคก่อนประวัติศาสตร์เฟื่องฟูและเสื่อมถอย (เรเนซองส์)

4. คุณได้เห็น ก็อต จักรพันธ์(คนเดียวกับเจ้าชายลูกทุ่ง)ยังร้องเพลงสตริงวัยรุ่น

5.คุณเกิดมาทันพอดีในยุคที่รองเท้าและถุงเท้านักเรียนแลกซื้อของเล่น(หลอกเด็ก) และหลังจากหมดยุคคุณ มันก็ไม่ทำมาหลอกเด็กอีกเลย

6.คุณโชคดีที่เกิดมาทันในยุคที่เมืองไทยมีดาราเด็กชื่อดังอย่างน้องตูมตาม เพราะสามารถนำมาเปรียบเทียบกับความน่ารักของน้องพลับในยุคนี้ได้

7. คุณโตมาพร้อมกับโงกุน ดราก้อนบอลมันออกฉายทีวีครั้งแรกปี 2529 – 2538 หนังสือการ์ตูนอัพเดททุกสัปดาห์ มีพิมพ์ทุกสำนัก ไม่มีการดองเพราะยังไม่มีลิขสิทธ์ อ่านแล้วไปดูช่อง 9 อีกยังมันส์ ถามเด็กผู้ชายยุคนั้นไม่มีใครไม่รู้จักพลังคลื่นเต่าที่กินเวลา 10 กว่าปีถึงจะจบ (แต่เด็กรุ่นใหม่ใช้เวลาอ่านแค่วันเดียว)

8.สุดยอดแห่งการ์ตูนก็มีในยุคนี้ เช่น เซนต์เซย่า เจ็ทแมน จีบัน เกียบัน ชาลีบัน ซึบาสะ นายมดแดง อุลตร้าแมน เซเลอร์มูน รันม่า 1 / 2 ฯลฯ มันเข้ามาฉายตอนเราอยู่อนุบาล – ประถม แล้วพอขึ้นชั้นมัธยม มันก็ค่อยๆ หายไป (แล้วฮีโร่ของเด็กยุคนี้ล่ะ จา พนม)

9.คุณเกิดมาทันพอดีกับช่วงเกมส์กด วีดีโอเกมส์ คอนทร้า มาริโอ พอโตขึ้นก็ยังไม่แก่เกินไปที่จะเล่นเพลย์สเตชั่น และทามาก็อตจิ

10. ในช่วงเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น คุณก็โตมาพร้อมกับอาร์เอส ยุคที่นักร้องอายุไล่เลี่ยกับคุณ ออกเทปกันให้ควั่ก และคุณยังได้เห็นตำนานร็อกหรั่ง หินเหล็กไฟ เสือ อิทธิ ไฮร็อคล่มสลายไปต่อหน้าต่อตาหลังการเข้ามาของเต๋า ทัชบอยสเก๊าท์แก๊งใจง่าย หลังจากนั้นก็เป็นยุคทองของอาร์เอส โดยแท้จริง (แต่นั่นมันอดีต ยุคนี้เค้าห้ามเอาของเกี่ยวกับอาร์เอสเข้าบ้าน)

11.หนังไทยก็ทำตามวัยของคุณ แล้วมันก็มีเยอะจริงๆ อนึ่งคิดถึงฯ น้ำเต้าหู้กับครูระเบียบ ปีหนึ่งเพื่อนกันฯ กระโปรงบานขาสั้น โลกทั้งใบฯ เด็กเสเพล พอคุณโตเข้าหน่อยก็มีหนังอย่าง โอเนกาทีฟ จักรยานสีแดง แล้วที่ทำมาโดนใจคนยุคนี้จริงๆ อย่างหนังระลึกชาติ แฟนฉัน

12.คุณโชคดีมากๆที่เคยร้องไห้ตอนฟังเพลง “เราและนาย” ของโลโซในงานวันปัจฉิมนิเทศเพราะตอนนี้คงไม่มีใครเสียน้ำตาให้กับเพลงนี้อีกแล้วเพราะเนื้อเพลงช่างตรงข้ามกับภาพลักษณ์ของวงสิ้นดี

13.คุณได้ซึมซับอารมณ์และบรรยากาศของการเข้าฉายครั้งแรกของสุดยอดหนังตื่นตา ตื่นใจในยุคนั้นอย่าง Terminator 2, Jurassic Park, Speed (ภาคหลังอย่าได้พูด)

14.รองเท้าแตะในตำนานอย่าง Scholl (สกอลล์) ก็มาฮิตที่สุดในยุคคุณนี่แหละ ใส่กันทั่วบ้านทั่วเมือง (ร้อยละ 70 ของเด็กวัยรุ่นยุคนั้นโดนขโมยแต๊บมาแล้ว)

15.คุณเกิดมาทันได้ดูลิเวอร์พูลยุคล่าอาณานิคม (ยุค’80)และตกเป็นเมืองขึ้น (ยุค’90) จนถึงปัจจุบัน

16. มีหมากฝรั่งบุหรี่ด้วย อิอิ กินแล้วโดนดุประจำ

17.เรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์

18. ดูดาวพระศุกร์ สายโลหิต เวอร์ชั่น ศรราม สุวนันท์

19. 10ปีที่แล้วเจ้าขุนทองเป็นยังไง 10 ปีให้หลัง เจ้าขุนทองก็ยังอยู่ มันไม่แก่ขึ้นเลยว่ะ

20.คุณได้เห็นยุคที่ทีมชาติไทยยังเป็นดรีมทีม จนปัจจุบันกลายเป็นฝันค้าง

21. 3 หนุ่ม 3 มุม บ่ายวันเสาร์

22. Window 95 โอ้ว...จอร์จ มันยอดมาก Word, Excell, Access 97 ใช้ยากจริงๆ

23. packlink 1145 ใช้ส่งข้อความ เป็นอะไรที่วัยรุ่น hit hot มาก

24. ยุคเฟื่องฟูของวงไมโคร “ขอมือขวาหน่อยคร้าบ”

25. แผ่นซีดียังราคา 250 บาททั้ง Grammy และ RS

26. โอ้ว...อินเทอร์เน็ต สุดยอดใช้แชทได้ด้วย

27. หนังจีนเล่นไพ่ โคตรสารพัดเทคนิคในการโกง คนตัดคน ภาค 1, 2, 3 พระเอกต้องโง่ก่อน แล้วมาเก่งสุดๆ ได้อาจารย์ที่เก่งกว่าตัวโกง แต่ถูกโกงแล้วมาถ่ายทอดฝีมือโคตรเซียนให้ลูกศิษย์

28. โฆษณาฮิต “อยากรู้เรื่องยาคูลท์ ถามสาวยาคูลท์สิคะ”

29. ทำบัตรประชาชน ต้องออกใบเหลืองให้ก่อน อีกสามเดือนมารับของจริง รูปที่ได้มาติดบัตร...ใช่ผมเหรอว่ะ

30.ไม่มีรายการถึงลูกถึงคน เจอแต่ มาตามนัด ฝันที่เป็นจริง ตาวิเศษเห็นนะ ฯลฯ

31. เขาทรายเก่งที่สุด ต่อยมวยทีไร ชนะทุกที

32.เราได้เรียนรู้พร้อมกับมานี มานะ ปิติ วีระ เพชร ชูใจ จันทร ฯลฯ

33. เราได้ดูหนังจักร ๆ วงศ์ ๆ ทั้งช่อง 3 จันทร์ – ศุกร์ และช่อง 7 เสาร์ – อาทิตย์

34. เราได้ดูขวัญเรียม บ้านทรายทอง แหวนทองเหลือง มนต์รักอสูร ผยอง ฯลฯ ที่ทำซ้ำไปซ้ำมา

35. เราทันสี่แผ่นดิน 2 เวอร์ชั่น

36.เราดูคู่กรรมตั้งแต่พี่เบิร์ดหนุ่ม จนเป็นศรราม

37. เรามี BMX ขี่

38.เราเต้นแร็ปตามแบบพี่ทัช

39.เราใส่รองเท้าที่ร้อยเชือกสีสะท้อนแสง

40.ได้เห็นเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ

41.ในโรงเรียนจะมีหลุมลูกแก้วและเส้นอยู่เต็มไปหมด

42.เราเห็นการเปลี่ยนแปลงของโทรศัพท์มือถือตั้งแต่กระติกน้ำจนถึงกล่องไม้ขีด

43.คุณต้องเคยสะสมสมุดสติ๊กเกอร์เพื่อเอาไปแลกของรางวัลแน่ๆ

44.ได้กินไอติมที่ถ้าใครได้ปลายไม้เป็นสีแดงจะสามารถเอาไปแลกกินไอติมฟรีได้อีกอันนึงด้วยนะ

วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไม่อยากรวย ไม่ต้องอ่าน ! เปิด 8 ธุรกิจที่มีอนาคตที่สุดในปี"56

กลุ่มธุรกิจ SMEs ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีในปี 2556 ได้แก่ 

(1) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ เนื่องจากการขยายตัวของการผลิตรถยนต์ป้อนผู้สั่งจองในประเทศจากนโยบายรถคันแรก และตลาดในต่างประเทศเริ่มทยอยฟื้นตัว โดยคาดว่าในปี 2556 การส่งออกรถยนต์จะขยายตัวได้มากกว่า 20% ซึ่ง SMEs กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และ ผู้ให้บริการประดับยนต์ ก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย

(2) กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรและพลังงานทดแทน เช่น ยางและผลิตภัณฑ์จากยางพารา มีแนวโน้มดีขึ้นจากเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวและการร่วมมือเพื่อลดกำลังการผลิต จะทำให้ราคายางพาราดีขึ้น พลังงานทดแทนจากพืช เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันจากปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและอาฟริกาเหนือ

(3) กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการไลฟ์สไตล์ ที่สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมการบริโภคของคนเมือง คนชั้นกลาง และคนรุ่นใหม่ เช่น ของขวัญของชำร่วย สินค้าแฟชั่น สินค้าเชิงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมี SMEs จำนวนมากดำเนินการอยู่

(4) ธุรกิจธุรกิจในกลุ่มก่อสร้าง จะมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นในปี 2556 เป็นผลมาจากมาตรการลงทุนของภาครัฐตามกรอบแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการขยายตัวของการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งมูลค่าการลงทุนน่าจะขยายตัวได้มากกว่า 10 % โดย SMEs เป็นผู้รับช่วงการผลิตจากผู้รับเหมารายใหญ่

(5) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม เป็นผลมาจากความคืบหน้าของการประมูล 3 จี จะทำให้มูลค่าตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มเคเบิ้ลและทีวีดาวเทียมที่คาดว่าจะมีปริมาณผู้รับชมในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น เพราะมีผู้ดำเนินการรายใหม่เข้ามาแข่งขัน ซึ่งมี SMEs หลายกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่น กลุ่มที่พัฒนาแอพพลิเคชั่น กลุ่มผู้ผลิต digital content ผู้ผลิต computer graphic กลุ่มผู้ผลิตรายการบันเทิง เป็นต้น

(6) กลุ่มการผลิตและบริการเพื่อสุขภาพและความงาม เช่น อาหารเสริม สมุนไพร เครื่องสำอาง อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ บริการด้านสุขภาพ บริการด้านความงาม เป็นต้น ซึ่งมี SMEs เป็นผู้ผลิตและผู้ให้บริการด้านนี้จำนวนมาก

(7) กลุ่มธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก บริการรถรับจ้าง-รถเช่า เนื่องจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดนักท่องเที่ยวภายประเทศ และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน เศรษฐกิจเอเชีย-อาเซี่ยน และบางประเทศในยุโรป

(8) กลุ่มธุรกิจด้านสันทนาการ เนื่องจากความต้องการบริการด้านนี้ขยายตัวมากขึ้น ประกอบการการมีลู่ทางขยายตลาดไปในเอเชียและอาเซียนมากขึ้น ธุรกิจกลุ่มนี้ เช่น ภาพยนตร์ ละคร ดนตรี กีฬา ข่าวสาร สารคดี รายการทีวีและเคเบิ้ลทีวี มีทั้ง SMEs ที่ดำเนินธุรกิจดังกล่าวเองและ SMEs ที่รับช่วงงานจากธุรกิจรายใหญ่


จาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

ที่มา : matichon   


วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

10 คำถามยอดฮิต ในการ สัมภาษณ์งาน

10 คำถาม ที่เค้านิยมจะถามกัน โดยมากที่คุณ ควรจะเตรียมพร้อม เพราะอย่างน้อย ถ้าไม่ได้ คำถามอื่น ก็ยังพอมีคำถามที่เราตอบแล้ว ฟังดูเข้าท่าเข้าทางบ้าง ฉะนั้นคำถามที่คุณ ควรจะรู้ มีดังต่อไปนี้


1.ทำไมคุณจึงอยากทำงานที่นี่

การที่จะทำงานทีไหนก็ตาม ผู้สัมภาษณ์จะต้องถามความเป็นมา ว่าทำไม คุณต้องการ ที่จะทำงาน ในบริษัทของเค้า และคำถามนี้ก็เป็น สิ่งที่คุณควร ทราบ และคุณก็ควรจะรู้ถึงเหตุผลของคุณอย่างแท้จริง ไม่ไช่ตอบไปสุ่มสี่สุ่มห้า เช่นคุณอาจจะตอบว่า

"ดิฉันมีความสนใจในระบบการทำงานของที่นี่มาก และก็ทราบมาว่า ทางบริษัท ได้เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคน ได้แสดงความสามารถ ได้อย่างเต็มที่ค่ะ และดิฉันยังทราบมาอีกว่า ที่บริษัทรับฟังข้อเสนอ ของพนักงานทุกคน และ พร้อมจะแก้ไขถ้าข้อเสนอนั้น จะสามารถ พัฒนา ให้บริษัทให้มีความมั่นคง และหน้าเชื่อถือยิ่งขึ้นค่ะ"

2.ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เคยทำอยู่

คำถามนี้จะง่ายมาก สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่เคยทำงานมาก่อน แต่จะเป็นคำถาม ที่ยากมาก สำหรับคนที่เคย มีประสบการณ์ ในการทำงานมาแล้ว และเป็น คำถามที่ตรงประเด็น มากเลยทีเดียว เพราะหากคุณพอใจ ต่องานที่ทำอยู่ คุณคงไม่ต้องหางานใหม่ ทำหรอกจริงไหมล่ะ คำถามนี้จึงเป็นคำถาม ที่คุณ ต้องเตรียมตัวอย่างมาก เลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น

"ผมอยากจะเรียนรู้ถึงงานสายใหม่ ที่น่าจะเหมาะสมกับตัวผม มากกว่า ที่ผม เคยทำอยู่ครับ และผมคิดว่างานที่นี้ เหมาะสมกับผม และผม พร้อมที่จะทำงาน ตรงนี้มากที่สุด"

และที่สำคัญ คุณห้ามนำข้อเสีย ที่คุณได้รู้จาก บริษัทเก่า มาพูดเด็ดขาด เพราะสิ่งนั้น อาจทำให้คะแนน แห่งความเชื่อถือ ของคุณ ลดลงก็ได้

3.ลองเล่าประวัติของคุณแบบย่อ ๆ

การที่จะทำงานร่วมกันได้นั้น สิ่งที่สำคัญ ก็จะเป็นเรี่อง ข้อมูลส่วนตัว ประวัติ ความเป็นมา เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถบ่งบอกถึง นิสัยใจคอของคุณได้ และ สามารถบอกถึง ความเหมาะสม กับงานด้านนี้ของคุณ ในการตอบคำถาม จึงควรอยู่ในแง่ของ การทำงาน บุคลิกภาพส่วนตัว และแง่คิดของชีวิต บ้างนิดหน่อย คุณไม่ควรจะเล่าประวัติชีวิตของคุณให้มากเกินไป เพราะการพูดมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดผลเสียแก่ตัวคุณเอง เช่น

" ผมเป็นคนเคารพเวลา ไม่ชอบให้ใครรอ เพราะฉะนั้นเวลาในการ ทำงานของผม จะตรงต่อเวลาเสมอ แต่ผมก็มีข้อเสียนะครับ คือเวลา ที่ผมรอใคร แล้วคนคนนั้น ไม่มาสักที ผมก็มักจะควบคุมอารมณ์ ของตัวเอง ไม่ค่อยได้ทั้ง ๆ ที่เหตุผลของเค้า เป็นเหตุผลที่น่าฟังมาก ก็ตาม และตอนนี้ผมกำลังหาวิธี เพื่อแก้ไข ข้อบกพร่องของผมอยู่ครับ"

4.คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด

คำถามนี้จะทำให้คุณบอกถึง ความสามารถของคุณ ที่จะทำให้กับบริษัท ได้มากน้อยแค่ไหน ในการบอกถึงคุณสมบัติ ที่คุณสามารถทำได้นั้น ไม่ถือว่า เป็นการโอ้อวดว่า คุณเก่งแต่อย่างไร แต่สิ่งที่คุณพูดนั้น จะสามารถสร้าง น้ำหนัก ในการตอบคำถามให้แก่คุณได้

5.จะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา

เจอคำถามนี้เข้า ก็ทำให้อึ้งเอาการ อยู่ทีเดียว ก็แหมใครอยากจะไป ทำงาน ล่วงเวลา หากไม่ได้ อะไรตอบแทนบ้างเลย ฉะนั้นในการตอบคำถามนี้ คุณควรจะกล่าวถึง ความพร้อมเสมอ ในการทำงานล่วงเวลา ถึงแม้ว่า ค่าตอบแทน อาจจะน้อยมาก หรือในการทำงานล่วงเวลา จะไปตรงกับ ตารางนัดสำคัญ กับคนพิเศษของคุณก็ตาม

"เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ ผมก็พร้อมจะทำงาน ล่วงเวลาเสมอ"

6.เรื่องทั่ว ๆ ไป

ในการสัมภาษณ์คุณอาจจะต้องพูดถึง เรื่องปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ข่าวทาง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และค่านิยม ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น เป็นข่าว หนังสือพิมพ์ คำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่า คุณให้ความสนใจกับข่าวสาร บ้านเมือง ไม่เป็นคนที่ตกข่าว สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ปัจจุบัน การทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจทำให้คะแนน การสัมภาษณ์ ของคุณ เพิ่มขึ้นมาก็ได้

7.ความใฝ่ฝันและโครงการในอนาคต

เป็นการพิจารณาถึง ความเอาจริงเอาจังของคุณ เพราะหากคุณสามารถบอกถึง ทิศทางในอนาคตได้ นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบ ในงานที่ได้รับ มอบหมายอย่างดีทีเดียว ก็ขนาดอนาคตที่ไม่มีใคร สามารถรู้ได้ คุณยัง วางแผนสู่อนาคต ได้อย่างเป็นระบบ นั่นก็หมายถึงว่า คุณไม่ได้มีความคิด ย่ำอยู่กับที่จริงไหม

8. คุณมีงานอดิเรกอะไรไหม

คำถามในข้อนี้จะเจาะประเด็นว่า คุณรู้จักแบ่งเวลาของคุณ ให้เกิดประโยชน์ มากน้อยแค่ไหน และแสดงให้เห็นถึง บุคลิกของคุณว่า คุณเป็นคนอย่างไร ร่าเริง เปิดเผย หรือเก็บตัว เช่น ถ้าคุณตอบว่า คุณชอบอ่านหนังสือ คุณอาจจะ ถูกถาม ต่อว่า หนังสือเล่มล่าสุดที่คุณอ่าน คือเรื่องอะไร และอาจให้คุณวิจารณ์ ถึงหนังสือเล่มนั้น ในการถามคำถามนี้ ยังสามารถได้รู้ถึง ความละเอียด อ่อนของคุณ การรู้จักสังเกต การมีปฏิภาณไหวพริบ กระทั่ง การใช้ชีวิต ร่วมกับคนอื่น ๆ อีกด้วย

9. คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่

เป็นเรื่องที่ยากมาก ในการตอบคำถามนี้ ถ้าหากว่า งานที่คุณไปสมัคร ระบุ เงินเดือนไว้แล้ว ก็เกิดความสบายใจหน่อย แต่ถ้าไม่ได้ระบุถึง อัตรา ค่าจ้างเลย ก็แย่หน่อย ทางที่ดีคุณควรตอบ ตามอัตราเงินเดือน ที่คนทั่วไป ได้รับกัน เช่น อาจจะถามเพื่อน ที่ทำงาน เหมือนกับตำแหน่ง ที่คุณสมัคร หรือตอบตาม เงินเดือนราชการ ที่คุณทราบก็ได้ แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์ เสนอเงินเดือน มาสูง หรือต่ำกว่า อัตราที่คุณรู้ คุณก็อย่าพึ่งตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการ พิจารณาสัก 3 วัน แล้วค่อยให้คำตอบ เพราะถ้า เกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นคนโลเล ไม่น่าเชื่อถือก็ได้

10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม

เจอคำถามนี้ก็บ่งบอกว่า การสัมภาษณ์ได้สิ้นสุดลง แต่ในการตอบคำถาม ข้อสุดท้ายนี้ จะตอบอย่างไรดี ที่จะแสดงว่า เราไม่เป็นคนไม่ฉลาดออกมา เช่น คุณอาจถามย้ำ เรื่องเวลาการทำงานก็ได้

"ผมอยากทราบเวลา ที่แน่นอน ในการทำงานของผมครับ"

หรือคุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะการ ไม่ได้ถามก็เท่ากับว่า คุณได้ทราบข้อมูล ของบริษัทมากพอแล้ว แต่ถ้าเกิด สงสัยจริง ๆ ก็ควรตั้ง คำถามที่ฟังแล้วดูดี และถูกใจนายจ้างของคุณ ให้มากที่สุด


คำถามที่พูดมาข้างต้นนี้ดู ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหม สำหรับการเตรียมตัว ในการ สัมภาษณ์ของคุณ แค่คุณมีความพร้อมกับ 10 คำถามเด็ด ๆ นี้ คุณก็สามารถ ชนะใจ กรรมการ ได้แล้ว อย่างน้อยมันคงมีสักคำถามล่ะ ที่ตรงกับการเตรียมตัวของคุณ และสร้าง ความมั่นใจ ในการตอบคำถามของคุณได้ แล้วอย่าลืมนำไป ปฏิบัติดูนะ เพราะสิ่งนี้ เป็นเส้นทาง ที่จะทำให้คุณสามารถได้รับ คัดเลือกเป็นพนักงาน ในบริษัทที่คุณใฝ่ฝัน ได้อย่างภาคภูมิใจ

วันอาทิตย์ที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2555

วิธีเปลี่ยน facebook ใหม่กลับเป็นแบบเดิม ได้ชัวร์

ปลี่ยนเฟสใหม่ ให้กลับมาเป็นแบบเดิม facebookใหม่ กลับมาแบบเดิม
วิธีเปลี่ยน facebook timeline ให้กลับมาแบบเดิม
โปรไฟล์เฟสบุ๊คแบบเก่า วิธีเปลี่ยนโปรไฟล์ในfacebookให้เป็นแบบเก่า วิธีเปลี่ยน Facebookใหม่เป็นแบบเดิม

ตอนนี้ทุกคนที่เปลี่ยน facebook ให้เป็นแบบใหม่ แบบ timeline แล้วอาจไม่ถูกใจอยากกลับให้มาเป็นแบบเดิม เฟสบุ๊คแบบเดิม

วิธีเปลี่ยน Facebook New Profile ให้กลับมาเป็นแบบเดิม  
แค่คลิก... หน้า Timeline ก็หายวั๊บกลับไปเป็น Facebook ที่จริงใจเหมือนเดิม
หลังการเปิดให้ Facebook Timeline กันมาสักระยะ ก็มีเสียงตอบรับทั้งในแง่บวก และแง่ลบกันทีเดียว ในแง่บอกก็คงเป็นความพึงพอใจที่ได้ทำรูป Cover แนวสร้างสรรค์โชว์ไอเดียเจ๋งๆ อวดเพื่อนๆ บางคนก็ใช้เป็นพื้นที่ไว้โฆษณาขายของ

แต่ สำหรับคนที่ไม่ชอบก็คงรู้สึกว่ามันเป็นอะไรที่ดูสับสนวุ่นวาย แถมยังขุดเรื่องเก่าๆ ออกมาโพสต์ให้เราเห็น บางคนที่ใช้เล่นผ่านแอพฯ บนSmartPhone ก็พบว่ามันมีปัญหาอยู่บ่อยๆ ที่ไม่ค่อยอัพเดตสิ่งที่เราพยายามโพสต์








ล่าสุดเว็บ SodaHead ได้ทำโพลสำรวจความเห็นของผู้ใช้ที่มีต่อ Timeline ได้ผลออกมาว่ามีผู้ใช้ Facebook กว่า 70% ที่ไม่ชอบเจ้าTimeline ส่วนที่ชอบนั้นมีเพียง 20% ของที่ทำการสำรวจ ส่วนอีก 10% ที่เหลือนั้นเป็นผู้ที่ไม่ได้ใช้งาน Facebook เมื่อแบ่งแยกผลสำรวจตามช่วงอายุ จะพบว่ากลุ่มตัวอย่างที่มีอายุอยู่ในช่วง 18-24 ปี ยอม รับการเปลี่ยนมาใช้ระบบ Timeline ได้ดีกว่าผู้ใหญ่ โดยคิดเป็น 30% ของทั้งหมดที่พอใจในตัว Timeline ในขณะที่กลุ่มผู้ใหญ่ที่อายุเกิน 65 ปีขึ้่นไปนั้น มีผู้ที่ชอบ Timeline เพียงแค่ 10% เท่านั้นเอง

สรุปแล้วดูเหมือนคนจะไม่ค่อยชอบหน้าแบบ Timeline ดูได้จากจำนวนคลิกลิงก์เพื่ออ่านทิปเรื่อง เทคนิคหนี "หน้า" Timeline ใน Facebookเพื่อเปิดใช้แบบเก่า ที่มีสูงถึง 33,859 views ซึ่งวิธีการที่อธิบายในครั้งนั้นอาจดูยุ่งยากสำหรับหลายคน

วิธีเลิกใช้ facebook timeline ด้วย TimeLineRemove มีวิธีดังนี้

ซอฟต์แวร์ช่วยเปลี่ยนหน้า Facebook กลับไปเป็นแบบเดิมที่ใช้ง่ายนามว่า TimeLineRemove ใช้ง่ายมาก

1. ดาวน์โหลดโปรแกรม TimeLineRemove ไว้ที่เครื่อง แค่นี้เองเพราะแค่ติดตั้งโปรแกรมลงไปในเครื่องหน้า Facebook ก็จะถูกเปลี่ยนแบบเก่าทันที
2. เวลาอยากกลับไป Timeline ก็แค่เอาโปรแกรมออก (Control Panel -> Uninstall a program)
3. เพื่อนๆเราจะเห็น facebook เราแบบเดิม ก็ต่อเมื่อได้ลงโปรแกรมนี้เช่นกันนะ
สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Timelineremove ได้ที่นี้เล้ย 
 Download Timeline Remove disable the new facebook timeline



 ขอบคุณที่มาภาพและบทความจาก sanook.com 


ขั้นตอนการ ยกเลิก Facebook Timeline ด้วย   TimelineRemove ใน Chrome 





  เมื่อกดดาวน์โหลด จะเห็นหน้าตาเป็นแบบในภาพ (ใช้ Google Chrome เข้านะ) ให้สังเกตตรงมุมขวาด้านบน (ดูรูปประกอบ) เมื่อคลิกเสร็จแล้วจะดาวน์โ
หลด และให้เรายืนยัน หากคุณยืนยันเรียบร้อยแล้ว ให้ลองเปิดfacebookด้วย Google Chrome ทีนี้หน้า timeline ก็จะหายไป แต่อย่างไรก็ตามใช้่ได้แค่เฉพาะ Google Chrome เท่านั้นนะ
คนที่ต้องการจะลบเฟสบุ๊ค timeline มาดาวน์โหลด  TimelineRemove ได้เลย



00000.jpg 


สามารถดาวน์โหลดโปรแกรม Timelineremove ได้ที่นี้เล้ย 
 Download Timeline Remove disable the new facebook timeline


 แต่ง facebook ใหม่  ให้หัวเฟสสวยเจิดกัน ได้ที่นี้ >
http://www.bbberry.net/webboard/viewthread.php?tid=5482&page=1&extra=#pid15161


ตัวอย่าง








ใครชอบก็หัดเล่นกันเลย

ที่มา  http://www.bbberry.net/webboard/viewthread.php?tid=5491&page=1&extra=#pid15187

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

กรุ๊ปเลือดไหนเป็นคนแบบใด


นิยามของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด 


 

              O        กวนตีน ชิล ๆ


               B        โผงผาง จริงใจ 


               A         จุกจิก เนี๊ยบ 


               AB      ประหลาด ลึกลับ

 

 

Group 'O' 

เริ่มจากรุ๊ปนี้ก่อน เลย คนกรุ๊ปโอไม่ต้องตกใจว่าทำไม เราเป็นคนที่มีนิสัยชิล 
มันไม่ได้เกิด จากคุณเอง เกิดจากเผ่าพันธ์ ยีนของคุณ  กรุ๊ปโอมักจะชิลกับตนเองเสมอ 
มาสายมากถึงมากที่สุดเวลานัด กันกับคนอื่นอื่น โดนรบกวนได้ง่ายจากปัจจัยภายนอก 
เช่น อยากอาบน้ำร้อนก่อนในวัน ฝน ตกไม่งั้นไม่ออกจากบ้าน 
ขออ่านการ์ตูนก่อน อีกสิบหน้าจะจบแล้ว 
รอ ฝน มันซากว่านี้แล้วกันค่อยออกแม้จะไปอีกทีสายแล้ว ก็ไม่เป็นไร 

กรุ๊ป โอ เป็นพวกไม่มีไฟแล้วทำอะไรไม่ได้ จะนอนอยู่กับบ้านได้ทั้งวัน 
แต่ถ้า วันนึงมีความฝันที่ต้องทำ มีกิเลสที่ตัวเองต้องการ 
จะทำสุดชีวิตแบบถึง เช้าถึงเที่ยงคืนก็ทำได้ ไม่หลับไม่นอน 

ความรัก กรุ๊ปโอจะเป็นพวกรักนานๆ ไปเรื่อยๆไม่หวือหวา พวกกรุ๊ปโอ จะเป็นคนไว้ใจคนยาก 
แต่ถ้ารู้จักกันไปแล้วก็จะติดเพื่อน ติดแฟนอย่างแยกไม่ออก 
เวลากรุ๊ปโอมาเจอกับกรุ๊ปโอกันเองจะจูนยาก เพราะจะดูๆกันก่อน 
กรุ๊ปโอเป็นพวกจะคบใครจะค่อยๆดู พอเจอโอกันเองเลยดูกันนาน 
แต่พอคบไปเรื่อยๆจะสนิทกันมากที่สุดกว่ากรุ๊ป อื่น แต่ก็จะมีช่องว่างให้กันด้วย 

กรุ๊ปโอเป็นพวกตามน้ำ เวลาจะเอาคนกรุ๊ปโอไปไหน เขาก็ไปได้หมดล่ะ แต่ต้องมารับโทรไปตาม 
ให้ ความสำคัญ  ต้องอัญเชิญว่าง่ายๆเถอะมาแน่! ต้องให้คนไปง้อ 
กรุ๊ปโอไม่ พูดอะไรออกจากใจ ภายในทันทีจะไปคิดทีนึงแล้วค่อยมาบอก 
บางทีจะทำอะไรก็ ชอบไปปรึกษาก่อนว่าแบบนี้ดีไหม? 
มีเรื่องกลุ้มใจก็จะรบกวนคนรอบข้างคอย ช่วยปรับสารทุกข์สุขดิบ 
แล้วก็กลับมาดีได้ด้วยแรงใจของคนรอบข้าง 

กรุ๊ป โอจะเป็นพวกปากหวานถ้าทำอะไรไม่เป็นก็จะทำตาปริบๆ ให้คนช่วยทำเสมอ 
นอก จากนี้โอยังเป็นพวกเจ้าสัวใจถึง ถ้ากลางที่สาธารณะก็จะหน้าใหญ่ใจกว้าง 
หลัง จากงานเลี้ยงค่อยมาคิด เออหมดตัวแล้ว

 

 Group 'B' 

กรุ๊ป B เป็นกรุ๊ป Entertain อย่างหนักหน่วงและ เป็นสีสันของวงสนทนา 
ไอเดีย ที่ B คิดจะตรงพูดจากใจเสมอ เรียกเสียงหัวเราะของคนในวงได้
เพราะ คนอื่นจะคิด "กูก็คิดแบบนั้น แต่ไม่กล้าพูด"' 
บี เวลารักใครอัดเต็มบ้าเห่อ พอชอบใครจะเอาตัวเอง ไปเลียบๆเคียงๆ คนที่ตัวเองชอบแบบเนียนๆ 

ส่วนมากกรุ๊ปบีจะไปชอบคนกรุ๊ปโอ ด้วยความนิ่งกว่าของคนกรุ๊ปโอ เพราะบีเจอบีจะระเบิด 
เวลามีเรื่อง จะออกตัวล้อฟรีจะเป็นจะตายทีเดียว เราจะได้เห็นบีในอาการแปลกๆ 
เช่น ทะเลาะกับยาม โวยวายกับคนโทรศัพท์ผิด โมโหเพื่อนทั้งที่ยังไม่เคลียร์ เรื่องเหตุต้นตอ 
แล้วพอหลังจากมีเรื่องจะมาคิดได้ว่า "น่าจะใจเย็นกว่านี้ หน่อยนะ" 
แต่ด้วยความเป็นคนตรงทำให้ไม่คิดอะไรมาก 

ถ้า เค้าจะชอบเรา(คนกรุ๊ปบี) แบบที่เป็นเราก็คงดีแล้วบีก็จะลืมเรื่องที่ตัวเองทำเอาไว้ 
กรุ๊ปบี บ้าเห่ออย่างที่บอก พอรักกันก็ปานจะกลืน พอไม่สนใจก็เอาไปทิ้งถังขยะได้ทีเดียว 
กรุ๊ปบีเป็นพวก ชัดเจน ไม่ชอบจะไม่ไปไหนด้วยเลย   
อาจจะเห็นกรุ๊ปบีไปเที่ยวเป็นกลุ่มใหญ่ๆ ตามคนอื่นไปบ้าง 
แต่พอครั้นอยากจะนอนอยู่บ้านหรือ วันนี้รถติดหว่ะ ก็ไม่ไปซะเลย ไม่โทรบอกใครด้วย 

กรุ๊ปบีเป็นคนใจร้ายแต่จริงๆ เป็นคนจริงใจและค่อนข้างยอมคนที่ตนเองสนิทอย่างมาก 
ถ้าพอใจกลุ่มแล้ว บี จะได้รับอิทธิพลจากโอสูงทีเดียวด้วย 
เหตุผลคือความนิ่งสยบความเคลื่อน ไหว 
ว่าง่ายๆ บีแพ้ทางโอ บางทีอะไรที่โอทำ บีจะปลาบปลื้มมาก 
แต่พอ เอไปทำบีจะมองว่ารำคาญหว่ะ 

กรุ๊ปบีเป็นกรุ๊ปแห่งอารมณ์ ไม่มีความเท่าเทียมกันในกรุ๊ปนี้ใช้อารมณ์ตัดสินกันล้วนๆ 
บีไม่ต้องการ คำปลอบใจหรือกำลังใจใดใด ขอนอนบ้างหลังจากอัดเต็มมาพักนึง 
หรือได้ออกไป ด่า ทำลายของของคนที่ตัวเองไม่ชอบ ก็กลับมาดี๊ด่าได้เหมือนเดิม 

อย่า ลืมว่าเวลาไปเที่ยวไหนให้พกคนกรุ๊ปนี้เอาไว้ เพื่อเพิ่มสีสันให้กับกลุ่ม 
เพราะ บีถือคติสนุกไว้ก่อน อ้อ แต่บีเห็นตลกแบบนี้ 
จะเป็นคนมีเหตุผลกับเรื่อง คอขาดบาดตายสูงมาก 
ตัดสินใจได้ดีทีเดียว ยิ่งเรื่องที่ตัวเองไม่ชอบขอมีส่วนด้วย 
อาจจะยุคนอื่น ให้เลิกคบกันไปเลย 
บีเป็นคนที่ประจบประแจงได้เนียน ถ้าโอจะทำจะกระดากตัวเอง 
ถ้าเอทำจะรู้สึกเสียศักดิ์ศรี แต่บีจะไม่มีทิฐิถ้าอยากทำก็จะทำ 
ไม่ได้ทำให้ทุกคนด้วยมีไรมั้ย เรื่องของฉันเชิ้บๆ







  Group 'A' 

คน กรุ๊ปนี้ ทางยุโรปบอกว่าเป็นกลุ่มคนที่หน้าตาดีที่สุด 
กรุ๊ป เอ เป็นพวกมีความมั่นใจในตัวเองสูง เป็นคนที่เป็นนักคิดนักวางแผน 
เราจะ เห็นคนเรียนดีจากเลือดกรุ๊ปนี้เยอะมาก เพราะความขยันและการเตรียมตัวที่ดีของเขา 
เอ ชอบอยู่ในกลุ่มคนและได้ออกความเห็นตลอด ชอบวิจารณ์คนอื่น 
แต่รับคำ วิจารณ์ที่คนอื่นวิจารณ์ตนเองไม่ได้เท่าไหร่ 
เอ เป็นคนที่สนิทยากถึงจะสนิทแต่ก็จะมีกำแพงกั้นไว้เสมอ   
เอจะแบ่งเวลาให้ กับทุกคนสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นครอบครัว เพื่อน คนรัก คนทำงาน 
กรุ๊ปเอ เวลานัดกันจะไปคนแรกเสมอ ตรงต่อเวลาและมีสัมมาคารวะ 
แต่ในใจก็จะมีความ คิดที่ตัดสินคนแต่ละคนเอาไว้ในหัวแล้ว 
เป็นกลุ่มคนที่มีเหตุผลสูงสุด เราแทบจะเถียงไม่ชนะกรุ๊ปนี้เลย 
แต่เวลากรุ๊ปเอทำอะไรออกมากลับเป็นอะไร ที่ Emotion มากขัดกับคาแรคเตอร์ที่ตัวเองเก็บไว้ 
คิดว่าเพราะความเก็บ กดที่ต้อง อยู่ในกรอบตลอดเวลา 
กรุ๊ปเอเป็นพวก Work hard play hard เรียนถึงเกียรตินิยมแต่เล่นแรงแบบลืมวันคืน 
กรุ๊ปเอ กับเพื่อน ยิ่งกลุ่มใหญ่ เอจะยิ่งเป็นลิ่วล้อ แต่พอกลุ่มเล็กลง เอจะเทพขึ้นมาเรื่อยๆ 

ถ้า เป็นคนรัก เอจะเอาตัวเองเป็นเหมือนตราชั่ง คือเสมอภาค 
ไม่ว่าแฟนจะรุ่น ใหญ่กว่า เอจะเอาตัวเองไปเทียบให้เท่ากัน 
แต่ถ้าแฟนรุ่นเล็กกว่าก็จะเอา ตัวเองลงไปคลุกกับโลกของคนนั้นซะงั้น 
เอ ชอบคิดว่า อันนี้มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย และประสาทเสีย กับอะไรที่ผิดแผน 
เวลาน้อย ใจจะชอบอยู่คนเดียวเสมอ 
เอ ไม่ถูกกับโออย่างรุนแรง ด้วยความเป็นคนในกรอบแล้วไปเจอคนนอกรีต 
จะรู้สึกหงุดหงิด อะไรว่ะ!!!นัดกันเที่ยงมาสามโมง 
แต่บางครั้ง เอ ก็จะคิดเข้าข้างตัวเองเสมอเวลาตัวเองทำผิดบ้าง 
และ ยิ้มอยู่คนเดียวเวลาที่ตัวเองรู้สึกเหนือกว่า อะไรที่ เอ ทำน่ะ ดีดลูกคิดรางแก้วไว้หมดแล้วล่ะ

 

Group 'AB' 

เอบี เป็นอัจฉริยะ เราจะเห็นเวลาที่ เอบีพูดน้อยกว่าคิด 
เอบีชอบหลบอยู่ในมุม จ้องมองคนอื่นๆทำอะไรต่างๆ แล้วก็คิดไปเรื่อย 
ถ้าเป็นฉันจะทำยังไงตรง นี้ จะมีอะไรที่ดีกว่าไหม 

เอบี เป็นพวกชอบคิดนอกกรอบ เป็นเทพเจ้า 
แต่ ในขณะเดียวกันอาจเป็นคุณบ้าของใครบางคนได้ 
เพราะ เอบีจะทำอะไรนอกกรอบและแนวทดลองเสมอ 
เอบีมีวิธี Entertain ให้ตัวเองมีความสุขแปลกๆ ในมุมของตัวเอง 
เช่น การนั่งกดรีโมทแอร์ตอนไม่มีถ่านแล้วสนุก 
หรือมองมดเดิน แล้วลองตั้งชื่อมด จำว่าตอนมันเดินกลับมาเราจะจำชื่อมันได้ไหม 

เอบี มักสร้างสิ่งแตกต่างในสังคมเสมอ ทำให้เกิดอารยะธรรม วัฒนธรรมใหม่ๆได้ 
เวลา นั่งในกลุ่มใหญ่จะมีแค่สองสถานการณ์ของคนในกรุ๊ปนี้คือ โดนสปอตไลท์ หรือหลบในมุมมืด   
เราจะไม่เห็น เอบีเฮฮาแบบเนียนๆไปกับกลุ่มเพื่อนฝูงตลอด 3 ชม 

เอบีจะมีโลกส่วนตัว สูง เราเอาแนวคิดที่เรามี กฏเกณฑ์ที่เรามีไปตัดสิน เอบีไม่ได้ 
นิสัยของ เอบีหลักๆคือลึกลับ 
ถ้าเอบีเขาจะสนุกกับคนอื่นๆ อย่างเดียวคือการได้แกล้งคนอื่น 
หรือ ดูคนอื่นทำอะไรที่ตนเองวางแผนเอาไว้ แล้วหัวเราะอยู่ในมุมเล็กๆของเขา

 

ถ้าเกิดการทะเลาะกัน

แน่นอนคู่แรกจะ เป็น A กับ O เพราะอย่างที่บอกคนในกรอบเจอคนนอกรีต 
 A ไม่ชอบความรู้สึกผิดเอง จะหาคนผิดในกรณีนั้นทันที 
แล้ว B เองจะเข้ามาเหมือนจะมาไกล่เกลี่ย 
แต่จริงๆจะเอามุขที่เตรียมไว้อย่าง เหมาะสม ใส่ลงมากลางวงเพื่อความเมามันของตัวเอง 
ซึ่ง A จะใส่ยับด้วยเหตุผล  O เองก็จะเถียง  แต่แพ้ด้วยเหตุผลทางสังคม   
แต่ ด้วยว่า B ติดหนี้ทางความรู้สึกกับ Oจะเข้ามาช่วยดันเอาไว้ 
เพราะ B ไม่ชอบให้ใครโดนด่าอยู่ฝ่ายเดียว 
 O ด้วยกันจะเข้าใจแต่ไม่อยากโดนร่างแหไปด้วย 

ถ้าจัดลูกโซ่จะเป็น 

 A > ชนะ > O > ชนะ > B > ชนะ > A  

แล้ว AB หายไปไหน

 AB ก็ยืนมองยักไหล่ว่าการทะเลาะกันของพวกนี้ไร้สาระสิ้นดี

 

 





ถ้า ฝนตกจะทำยังไง

 
Oจะรอจน ฝน หยุดตกจะเปียกทำไมล่ะ 
ค่อยไปก็ ได้คนอื่นน่าจะเข้าใจนะ ว่าเดี๋ยวเปียกไม่สบายอีกน่ะ 


Bดูก่อนว่าโอเอาไง หรือว่าตัวเองรีบไหม  เช็คอารมณ์ก่อน 


Aรีบออกไปเลยแม้จะไม่รีบมากขนาดนั้นก็เถอะ ถ้าให้ยืนเฉยๆ กูจะเบื่อตาย 


 AB ดูทุกคนก่อนถ้า A ออกไปแล้วเปียกหรือน้ำท่วมมันสูงจนรองเท้าเปียก 
ก็ ยืนรอจังหวะ ซากว่านี้ แต่คงไม่อยากอยู่จนคนสุดท้าย

ความรักของคน เหล่านี้ 

Oจะฝันอยากได้คนในเสปค แต่กลับอยู่กับคนที่ชิลแล้วอยู่ด้วยกันได้จริงๆ 
และค่อนข้างให้คนรักเอา อกเอาใจ ส่วนมากจะได้ B เป็นแฟน 
ถ้าได้ O ด้วยกันเป็นแฟนจะพูดกันน้อย 
และ O จะพาแฟนไปรู้จักกับเพื่อนด้วย เพราะ Oชอบให้เพื่อนอยู่ปนกะแฟน 
 O ชอบสังคมแบบ Multi เวลามีปัญหากับคนรัก กรุ๊ปโอจะชอบให้ง้อ 
พวกนี้แพ้ คนที่มาถึงที่ เอาใจถึงใจ 

Bจะไปหาคนที่ชอบเท่านั้น   
 B ชอบออกตัวจีบก่อนด้วยแต่ในทางกลับกัน จะมีชีวิตแบบในหนังน้ำเน่าได้ 
เช่น แรกๆไม่ชอบคนนี้แต่ถ้ามาจีบๆ ก็จะยอมด้วยความใจอ่อน 
แบบพ่อแง่ แม่ งอนทะเลาะกันน่ารัก งอนๆแล้วล้มไปจุ๊บกันได้เชิ้บๆ 
 B ชอบติดแฟนอยู่เป็นช่วงๆ บางทีก็จะหายไปกับแฟนเลย 
แต่ก็จะโผล่มาหาเพื่อน ฝูงบ้างเป็นช่วงๆสลับกันไปตามสถานการณ์ ความสำคัญ 
 B ชอบใช้เวลาอยู่กับคนรักแบบติดเอาชีวิตไปมอบให้เลยแต่แค่พักเดียวนะ 
มี วิธีการง้อคนรักแบบ B คือการใช้ความสัมพันธ์ความผูกพัน ระลึกถึงความหลัง
วิธี นีได้ผลยิ่งนัก B เป็นพวกรักแบบบ้ายุ ยุขึ้นนะเนี่ย ! 

Aใช้เวลาดูคนรักพอสมควร A จะวางแผนแล้วว่าคนนี้ บ้านอยู่ไหน 
เรียนอะไรทำ งานที่ไหน มีโอกาสจะได้มีชีวิตด้วยกันสูงไหม สืบมาเป็นอย่างดี 
 A จะใส่ใจคนรักมากชอบทำเซอร์ไพรส์ คิดจุกๆจิกๆทำนี่ ทำนั่นให้ 
แต่กลับกัน เวลาเกิดปัญหากับคนรักจะรุนแรง ยืดเยื้อเรื้อรัง 
เพราะต้องการเอาชนะ ด้วยคิดว่าตัวเองถูกเสมอ 
ถ้าเราจะง้อคนรักแบบ A ต้องยอมรับผิด แล้วให้เขารู้สึกเหนือกว่า 
 A จะเลิกกับคนรักเพื่อไปคบคนใหม่ต่อไปต่อเมื่อมีคนที่ดีกว่าเข้ามาเท่านั้น 
 A ชอบจัดเตรียมวางแผนให้คนรักช่วยเหลือด้านหน้าที่การงาน การบ้านให้เสมอ 
ประมาณ ว่าคนของฉันต้องเริ่ดเสมอเดี๋ยวคนอื่นมองไม่ดี 
จริงๆคิอทำอะไรก็แคร์สาย ตาคนอื่นเสมอมากกว่า 

ABมีโลกส่วนตัวของตนเองและคนรักสูง 
ไม่ สนใจโลกภายนอกหรือสายตาความคิดคนอื่นมากนัก 
ไม่ชอบพูดถึงเรื่องความรัก ตัวเอง ถ้าเราเห็นคนจูบกันในรถไฟฟ้า 
กอดกันไม่สนใจโลก  ในห้างสรรพสินค้า นั่นล่ะพวก AB

 

การเงินของแต่ละกรุ๊ป 


Oไม่มีแผนการใช้เงินมากเท่าไหร่นัก 
จริงๆแล้วเป็นพวกเจ้าสัว ถ้าโดนยุให้ซื้อของเจอคนรอบข้างบิ้วก็หมดตัว 
ใช้เงินเกินตัวและแพงไม่ ว่าขอให้ชอบ 


 B กลัวโดนด่าเวลาซื้อของ  
ชอบซื้อของแปลกๆ
ให้ เหตุผลทางใจสูงไว้ก่อนการใช้งาน แปรปรวนได้ง่ายจากคำคนรอบข้าง 


Aวางแผนมาเป็นอย่างดี และต้องจำเป็นเท่านั้นถึงจะซื้อ 
นอกจากนี้ยังดู หลายร้าน เตรียมคิดหาส่วนลดให้ได้มากที่สุด 


ABซื้อของไปในทางเดียวกันหมด จะซ้ำก็ไม่ว่า 
จะเหมือนกันมากแค่ไหนก็ไม่ ว่า   จะมีของซ้ำแนวเดียวกันเยอะมาก

 

 

 

การ แบ่งงาน 


Oงานละเอียดยิบ ได้เนื้องานจริงๆ เช่นบริษัทผ้าคือคนฟอกผ้าเลือกสี 
เป็นกลุ่มคนส่วนมากในบริษัท 


Bงานประชาสัมพันธ์มาเกตติ้ง เอนเทอร์เทน 


Aเป็นออแกไนซ์เซอร์ MD ฝ่ายบุคคล หัวหน้าแผนก หัวหน้าห้อง 


ABประธานบริษัท คนออกเงิน

 

การรับฟัง 


Oฟังคนอื่นมากไป น้อยใจเพราะคำวิจารณ์ สูญเสียความเป็นตัวตน ชอบตามใจ 


Bมีหนทางที่มั่นคงของตัวเอง เป็นคนดื้อด้านพอสมควร ถ้าโดนรุมจะยอมแพ้ 


Aดื้อเงียบ แต่เรียนรู้จากประสบการณ์ 


ABคาดเดาไม่ได้



www.pukpik.com