วันพุธที่ 26 ธันวาคม พ.ศ. 2555

ไม่อยากรวย ไม่ต้องอ่าน ! เปิด 8 ธุรกิจที่มีอนาคตที่สุดในปี"56

กลุ่มธุรกิจ SMEs ที่คาดว่าจะมีแนวโน้มการขยายตัวที่ดีในปี 2556 ได้แก่ 

(1) กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ เนื่องจากการขยายตัวของการผลิตรถยนต์ป้อนผู้สั่งจองในประเทศจากนโยบายรถคันแรก และตลาดในต่างประเทศเริ่มทยอยฟื้นตัว โดยคาดว่าในปี 2556 การส่งออกรถยนต์จะขยายตัวได้มากกว่า 20% ซึ่ง SMEs กลุ่มผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ และ ผู้ให้บริการประดับยนต์ ก็จะได้รับประโยชน์ไปด้วย

(2) กลุ่มอุตสาหกรรมการเกษตรและพลังงานทดแทน เช่น ยางและผลิตภัณฑ์จากยางพารา มีแนวโน้มดีขึ้นจากเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวและการร่วมมือเพื่อลดกำลังการผลิต จะทำให้ราคายางพาราดีขึ้น พลังงานทดแทนจากพืช เนื่องจากความผันผวนของราคาน้ำมันจากปัญหาสถานการณ์ความไม่สงบในตะวันออกกลางและอาฟริกาเหนือ

(3) กลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการไลฟ์สไตล์ ที่สอดคล้องกับความต้องการและพฤติกรรมการบริโภคของคนเมือง คนชั้นกลาง และคนรุ่นใหม่ เช่น ของขวัญของชำร่วย สินค้าแฟชั่น สินค้าเชิงศิลปวัฒนธรรม ซึ่งมี SMEs จำนวนมากดำเนินการอยู่

(4) ธุรกิจธุรกิจในกลุ่มก่อสร้าง จะมีมูลค่าการลงทุนเพิ่มขึ้นในปี 2556 เป็นผลมาจากมาตรการลงทุนของภาครัฐตามกรอบแผนบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ และแผนลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และการขยายตัวของการก่อสร้างที่อยู่อาศัยและอาคารสำนักงานตามแนวรถไฟฟ้า ซึ่งมูลค่าการลงทุนน่าจะขยายตัวได้มากกว่า 10 % โดย SMEs เป็นผู้รับช่วงการผลิตจากผู้รับเหมารายใหญ่

(5) ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับกลุ่มธุรกิจโทรคมนาคม เป็นผลมาจากความคืบหน้าของการประมูล 3 จี จะทำให้มูลค่าตลาดบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตมากขึ้น รวมทั้งกลุ่มเคเบิ้ลและทีวีดาวเทียมที่คาดว่าจะมีปริมาณผู้รับชมในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น เพราะมีผู้ดำเนินการรายใหม่เข้ามาแข่งขัน ซึ่งมี SMEs หลายกลุ่มที่เกี่ยวข้อง เช่น กลุ่มที่พัฒนาแอพพลิเคชั่น กลุ่มผู้ผลิต digital content ผู้ผลิต computer graphic กลุ่มผู้ผลิตรายการบันเทิง เป็นต้น

(6) กลุ่มการผลิตและบริการเพื่อสุขภาพและความงาม เช่น อาหารเสริม สมุนไพร เครื่องสำอาง อุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ บริการด้านสุขภาพ บริการด้านความงาม เป็นต้น ซึ่งมี SMEs เป็นผู้ผลิตและผู้ให้บริการด้านนี้จำนวนมาก

(7) กลุ่มธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก บริการรถรับจ้าง-รถเช่า เนื่องจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของตลาดนักท่องเที่ยวภายประเทศ และแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน เศรษฐกิจเอเชีย-อาเซี่ยน และบางประเทศในยุโรป

(8) กลุ่มธุรกิจด้านสันทนาการ เนื่องจากความต้องการบริการด้านนี้ขยายตัวมากขึ้น ประกอบการการมีลู่ทางขยายตลาดไปในเอเชียและอาเซียนมากขึ้น ธุรกิจกลุ่มนี้ เช่น ภาพยนตร์ ละคร ดนตรี กีฬา ข่าวสาร สารคดี รายการทีวีและเคเบิ้ลทีวี มีทั้ง SMEs ที่ดำเนินธุรกิจดังกล่าวเองและ SMEs ที่รับช่วงงานจากธุรกิจรายใหญ่


จาก สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.)

ที่มา : matichon   


BackTrack คืออะไร มารู้จัก Backtrack กัน


BackTrack คืออะไร ? 
BackTrack เป็น OS ที่พัฒนามาจาก Ubuntu โดยที่ BackTrack นี้จะเน้นไปทางระบบความปลอดภัยของคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่าย พูดง่ายก็คือเป็น OS ที่รวมเครื่องมือทดสอบการเจาะระบบหรือเครื่องมือในการแฮกนั้นเอง ซึ่งแฮกเกอร์มือใหม่ๆ (Script Kiddies) ใช้ในการหัดแฮก ซึ่งปัจจุบันนี้ BackTrack ได้มีการพัฒนามาถึงเวอร์ชั่น BackTrack 5 r3 ซึ่งสามารถได้โหลดและใช้งานได้ที่เว็ปไซต์ของผู้พัฒนาโดยตรงได้ที่ www.backtrack-linux.orgได้ฟรีๆ ซึ่งจะมีทั้งแบบ 32 และ 64 bit อีกทั้งยังมีแบบใช้งานบน Virtual Machine หรือ VMware นั้นเอง

หลังจากที่เราได้รู้จักกันแล้วว่า BackTrack คืออะไร ทีนี้เรามาดูกันว่าใน BackTrack มีเครื่องมืออะไรบ้าง

- Information Gathering เครื่องมือในกลุ่มนี้ประกอบด้วยโปรแกรมต่างๆประมาณ 20 กว่าโปรแกรม ซึ่งแต่ละโปรแกรมนั้นมีหน้าที่ในการเอาข้อมูลพื้นฐานต่างๆจากเหยื่ออย่างเช่น ข้อมูล DNS ซึ่งจะมีโปรแกรม DNS-Walk, DNS Bruteforce, DNSMap และ Dig เป็นต้น และถ้าข้อมูลเกี่ยวกับ SMTP ก็จะมี Relay Scanner, DMitry และ Goog Mail Enum เป็นต้นและนอกจากนี้ก็ยังมีโปรแกรมอื่นๆอีกรวมทั้งหมดก็ 20 กว่าโปรแกรม

- Network Mapping ประกอบด้วยโปรแกรมที่ใช้ในการแสกนเป้าหมาย เพื่อหาเซอร์วิสที่เปิดหรือกำลังทำงานอยู่ อย่างเช่น โปรแกรม Nmap, NampFE, Eping, Hping2, Hping3 และ Netcat เป็นต้น

- Vulnerability Identification ในกลุ่มนี้จะมีโปรแกรมที่ใช้ในการหาช่องโหว่หลังจากที่ทราบพอร์ตและเซอร์วิสที่รันอยู่ ได้แก่โปรแกรมที่ใช้แสกนหาช่องโหว่ของระบบฐานข้อมูล อย่างOracle, MySQL, SQL Server, เช่น Metacoretex, TNScmd, SQLdict, และ BlindSQLiX โปรแกรมที่ใช้แสกนหาช่องโหว่ของอุปกรณ์ Cisco เช่น Cisco Auditing Tools นอกจากนั้นก้ยังมีโปรแกรมประเภท SMB Analysis, และ Web Analysis เช่น Nikto เป็นต้น

- Penetration โปรแกรมใสกลุ่มที่ใช้เอาไว้ทดลองเจาะระบบว่าสามารถเข้าได้หรือไม่ โดยจะมีอาชิพที่รับจ้างทดสอบเจาะระบบเพื่อหาช่องโหว่แบบถูกกฏหมาย ซึ่งคนจ้างและคนทดสอบจะมีการเซ็นสัญญา เพื่อที่ผู้รับทดสอบเจาะระบบ ไม่ทำเลยขอบเขตที่ตกลงกัน และผู้จ้างจะไม่ถือว่าการเจาะนั้นเป็นการบุกรุก ซึ่งการเจาะระบบในลักษณะนี้เรียกว่า Penetration Testing (Pen test) เครื่องมือที่มักจะใช้ในการทอสอบเจาะระบบจะมีค้อนข้างเยอะใน BackTrack เช่น โปรแกรม Metasploit Framework 2-3, Inguna, Init pgsql, OpenSSL-To-Open และโปรแกรมอื่นๆอีก

-  Privilage Escalation ได้แก่โแกรมที่ใช้ทำ Spoofing ชนิดต่างๆ เช่น DNS Spoof, ARP Spoof และยังมีโปรแกรมดักจับหรัสผ่านและโปรแกรมโจมตีรหัสผ่าน เช่นโปรแกรม Ettercap, ICMP Redirect, Sing, tcpreplay, SSDump, DNsniff, Wireshark และ chntpw เป็นต้น

- Maintaining Access ได้แก่ โปรแกรมที่ใช้ทั Backdoor, Root Kit และโปรแกรมที่ใช้ทำ Tunnel หรือ อุโมง์ เพื่อให้สามารถลอดผ่าน Firewall ได้ เช่นโปรแกรม 3proxy, Backdoor, CryptCat, ICMPTx, NSTXCD, sbd, socat และ Matahari เป็นต้น

- VOIP & Telephony Analysis เป็นกลุ่มโปรแกรมจำพวกวิเคราะห์หาช่องโหว่ Voice Over IP

- Radio Network Analysis โปรแกรมในกลุ่มนี้มีไว้เพื่อโจมตี Wireless LAN, RFID, และ Bluetooth เช่นโปรแกรมในกลุ่ม Aircrack ที่มี Airmon, Airodump, Aireplay และโปรแกรมพวก Airsnort, Kismet, Bluesnarfer และ btscanner

- Digital Forensics โปรแกมจำพวกที่ใช้ค้นหาและวิเคราะห์หลักฐานหลังจากเซิฟเวอร์โดนแฮก

- Reverse Engineering โปรแกรมเพื่อทำกระบวนการย้อนกลับสำหรับซอฟแวร์ต่างๆ เช่น เพื่อแครกให้สามารถใช้งานโปรแกรมต่างๆได้โดยไม่ต้องใช้ Serial Key หรือพูดง่ายๆก็คือใช้โปรแกรมโดยไม่ต้องซื้อ ใช้แบบฟรีๆเลย

- Miscellaneous เป็นโปรแกรมและเครื่องมืออื่นๆใน BackTrack ที่ไม่ได้รับการแบ่งหมวดหมู่อย่างชัดเจน


          อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่า BackTrack จะเป็นเครื่องมือที่ใช้ในการทดสอบระบบความปลอดภัยของระบบเครื่อข่ายและคอมพิวเตอร์ก็จริง แต่ในทางกลับกันหากแฮกเกอร์นำไปใช้ในการแฮกผู้อื่นหรือเจาะระบบมันก็สามารถสร้างความเสียหายได้เหมือนกันครับ BackTrack ก็เหมือนดาบสองคมหากนำไปใช้ในการทดสอบเจาะระบบเพื่อเพิ่มความปลอดภัยมันก็ดี แต่หากไปใช้ในการเจาะระบบหรือแฮกคนอื่นมันก็เป็นผลเสียเหมือนกันครับ 



ที่มา : ITClickMe.com

วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555

99ประโยคดีๆๆของคำว่ารัก


99ประโยคดีๆๆของคำว่ารัก




1. คนที่บอกว่าตัวเองมี"รักแท้" คือคนที่ไม่รู้จัก คำว่า "รัก" เลย
2. ถ้าสีต่างๆคือตัวแทนของความรู้สึก ความรักที่บริสุทธิ์ ไม่ใช่ความรักที่ไม่มีสี แต่กลับเป็นสิ่งที่มีสีเยอะที่ส ุดบนโลก
3. ถ้าแผ่น VCD คือ ความรัก คงจะไม่มีเทคโนโลยีใดๆบนโลกที่จะ อ่านมันได้เข้าใจที่สุด
4. ความรักจะกลายเป็นสิ่งไร้ค่า ถ้าเอามาเป็นตัวแทนของคำโกหก
5. ถ้าเสตอริโอ เป็นความรักของคนคนหนึ่งที่มีให้คุณ จงจำไว้ว่า ถ้าตราบใดที่ คุณ ยังไม่เปิด Volume คุณจะไม่มีวันรู้เลยว่าจริงๆแล้วเขารักคุณหรือไม่
6. ความรักเป็นบ่อเกิดของความเกลียด แต่จงจำไว้ ถ้าไม่มีเกลียด ก็จะไม่มีรัก
7. Sex ไม่ใช่การแสดงออกของความรัก แต่เป็นเพียงส่วนประกอบส่วนหนึ่งของความรักเท่านั้น
8. ทุกครั้งที่คุณด่าคนที่แอบรักคุณว่า "โง่" คุณรู้ไหมว่า คุณ โง่ กว่าเขา 10 เท่า
9. "คนรักกัน" ก็เหมือนไม้บรรทัด ที่ ทั้งสองด้านมี เรา และ เขายืนอยู่ ถ้าไม่ลองเดินเข้าหากัน มันก็เป็นแค่ "คนที่เห็นหน้ากัน" เท่านั้น
10. ถ้าความรักเปรียบได้ดั่งไม้บรรทัด ที่ทั้งสองด้านมี เราและ เขายืนอยู่ จงเดินเข้าหากันในระยะที่เท่ากัน อย่าทำให้ความสมดุลของความรัก ต้องหักลง
11. ในช่วงเวลาที่คุณยืนอยู่คนละด้านของไม้บรรทัดแห่งความรัก.. จงตะโกนใส่เขาเสียบ้าง ให้เขาได้รู้ว่าคุณยังอยู่ตรงนี้ อยู่บนไม้บรรทัดแห่งความรักของกันและกัน
12. ในห้องนอนห้องหนึ่ง ถ้าคุณผู้ชายบอกเหล่าคุณผู้หญิงว่า "รักแล้วให้ไม่ได้หรอ?" จงจำไว้ว่า มัน "อาจ" จะเป็นการให้ความรักของเขา กลับคืนสู่เขาตลอดไปก็ได้
13. หัดเชื่อในลมปากของคำโกหกที่เบาๆ ดีกว่าต้องมาเจอการกระทำที่ร้ายแรง
14. ชีวิตที่ยังมีความหวัง ก็เปรียบได้กับ กลีบ ดอกไม้ ที่ยังล่องลอยอยู่ในอากาศได้ เพราะสายลมที่ชื่อว่า "รัก"
15. ทุกครั้งที่ผู้หญิงคนหนึ่งเสียความบริสุทธิ์ ให้แก่ผู้ชาย จงจำไว้ว่า ได้เกิดการสูญเสียของสิ่งที่ชื่อว่า "ความไม่ไว้วางใจ" ไปแล้ว และ "ความไว้วางใจ" ได้เข้ามาแทนที่ในหัวใจของผู้หญ ิงคนนั้นแล้ว
16. และถ้าเมื่อไหร่ ที่ความ "ไว้วางใจ" นั้นถูกหักหลังลงอย่างร้ายกาจ... สิ่งสุดท้ายที่จะเข้ามาแทนที่ คือ "ความเสียใจอย่างสุดจะหามิได้" นั่นเอง
17. คนที่คุณรัก อาจไม่ใช่คนที่รักคุณมากที่สุดบนโลกใบนี้
18. ในช่วงเวลา 1 วินาทีที่คุณคิดจะนอกใจ... เท่ากับคุณกำลังจะให้คนที่รักคุณคนหนึ่งต้องเสียใจไป 1 ปี
19. ความรักไม่มีนิยามที่ตายตัว ตั้งแต่วันแรกที่มันกำเนิดขึ้นมาบนโลกแล้ว
20. ถ้าใครที่บอกว่า มันผู้นั้นคือผู้ที่เข้าใจในความรักมากที่สุด คนผู้นั้น ไม่เคยเข้าใจในอะไรเลย
21. ความรักไม่มีนิยาม แต่มีความหมาย หลากร้อยหลายพัน Species
22. ไม่มีใครบนโลกสามารถให้นิยามแก่ความรักได้ แต่ ให้นิยามแก่ความรักของ "ตนเอง" ได้
23. โชคชะตา ไม่ได้เป็นส่วนประกอบที่ทำให้เกิดความรัก แต่เป็นสิ่งที่ทำให้ความรัก โผล่ขึ้นมาให้คุณได้เห็น
24. พรหมลิขิต เขียนทุกอย่างขึ้นมาในชีวิตคุณ แต่มันไม่อาจเขียนให้คุณรักใครได้
25. โชคชะตา กัน พรหมลิขิต เป็นแค่สองสิ่งที่มารวมกัน เพื่อให้คนสองคนได้เจอกันเท่านั้น
26. ความรักสามารถเป็นอะไรก็ได้ที่คุณอยากให้เป็น แค่เพียงคุณจะนึกถึงมันออก
27. 99.99% ของผู้ชายบนโลก รักผู้หญิงที่ภาพรวม ไม่ใช่ความรู้สึก และนิสัย หรือรูปร่างเพียงอย่างเดียว
28. 99.99% ของผู้หญิงบนโลก ที่จะไม่รักผู้ชายที่ไม่มีอะไรเลย ให้เธอ
29. แก้วน้ำ คือตัวอย่างของความรักที่ไม่มีวันเต็ม
30. ธรรมชาติของผู้ชาย คือ ความรักต่อสิ่งที่สวยงามในผู้หญิง
31. ธรรมชาติของผู้หญิง คือ ความรักต่อสิ่งที่ตนเองเป็นเจ้าของ
32. หายากนักที่จะหาคู่รักสักคู่บนโลกที่ ใช้ "Eye Contact" ในการสื่อสารต่อกันได้
33. ความเร็วของแสง คือ เลขที่เอาไว้แทนค่า ความไวต่อความเจ้าชู้ ของผู้หญิงที่มีต่อผู้ชาย
34. ความรัก ไม่ใช่ Sex
35. ความรัก กับ Sex เหมือนกระดาษ 1 แผ่น ที่ ด้านหนึ่ง คือ "ความรัก" และอีกด้านหนึ่ง คือ "Sex" ซึ่งจะทำให้คุณได้รู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องเดียวกัน แต่เป็นเรื่องที่อยู่ใกล้กันที่สุดนั่นเอง
36. ความรักที่มากที่สุดที่คุณจะได้จากเพื่อน คือ "เพื่อนรัก" เท่านั้น
37. คนที่กลัวความรัก คือคนที่กลัวทุกสิ่งบนโลกใบนี้
38. ความหึงหวง ไม่ใช่การแสดงความเป็นเจ้าของ แต่เป็น ส่วนหนึ่ง ของ คำพูดที่บอกกับอีกคนหนึ่งว่า " ฉันรักเธอนะ และไม่อยากให้เธอไปไหน"
39. ความรัก เหมือนแม่น้ำที่ ไหล ย้อนกลับได้ ในคืนที่ ความเงียบเหงากัดกร่อนหัวใจจนเกินทน
40. เหตุผลของการหักหลัง เริ่มมาจาก การที่ "ไม่ได้รักจริง"
41. เจ็บเร็ว แต่ดีกว่าช้ำนาน
42. ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งในชีวิต มันเป็นแค่ประสบการณ์ ถาวร ในความทรงจำ
43. เลือกที่จะรักมากกว่า เลือกที่จะ หลง
44. ถ้าใครบอกคุณว่า เขามีความรักเท่า ดวงดาวบนท้องฟ้า ที่ให้คุณ น่ะ.. มันไมได้รวมถึง ดาวหาง กับ ดวงอาทิตย์ ที่จะเก็บไว้ให้คนอื่น ด้วย (แถมใหญ่กว่า ตั้งหลายเท่า )
45. และถ้าเขาบอกว่ารักคุณเท่ามหาสมุทร เท่านั้นแหละมันได้ที่เก็บซ่อน สิ่งมีชีวิตในน้ำ (แห่งความรัก) ที่ไม่ใช่คุณ เป็นจำนวน หลาย ล้านๆๆ แล้ว
46. การอกหักคือประสบการณ์แห่งชีวิต
47. การอกหัก 1 ครั้งดีกว่า การต้องเก็บซ่อนความรักไว้ในใจ ถึง 1 แสนสองหมื่น 4 พัน เท่า
48. คนที่มีความรัก ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีคู่ครอง แต่ทุกคน มีความรัก ได้เหมือนกัน
49. ค่ายเพลงแห่งความรักที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยคือ Bakery Music
50. ความเหงา เป็นผลพลอยได้ จาก ความเสียใจที่เกิดจากความรัก
51. ผู้หญิงควรจะทำหนังสือ "พฤติกรรมแปลกประหลาดในด้านความรักของผู้หญิง" ให้คุณผู้ชาย อ่านเสียบ้างจริงๆ ตามที่ รอน บอก ในหนังสือ Harry Potter เล่ม 5
52. หนัง หรือ ภาพยนตร์ คือ สื่อที่ถูกนำมาแสดง เรื่องราวของความรักเยอะที่สุด
53. ไม่มีใครเข้าใจในรูปแบบของความรักของตน เท่าตัวของเราเอง... หรือแม้แต่คนที่รักเรา และ เรารัก
54. จุดอ่อนที่สุดของผู้หญิงในเรื่องความรักคือ "คิดมาก"
55. จุดอ่อนที่สุดของผู้ชายในเรื่องความรักคือ "การพยายามใช้โทรจิตบอกเหตุผล แทนคำพูด"
56. ผู้หญิงไม่ได้มาจากดาวศุกร์ และผู้ชายไม่ได้มาจากดาวอังคาร เพราะความรักของมนุษย์ เกิดขึ้นบนโลก
57. ผู้ชายจะเลวกว่า ห ม า เมื่อ เชื่อฟังผู้หญิงน้อยกว่า สุนัขนั่นเอง
58. รัก โลภ โกรธ หลง เป็นสิ่งที่อยู่ด้วยกัน แต่เลือกที่จะเก็บบางอย่างไว้ในใจได้
59. การโทรศัพท์ไปคุย กับคนรัก เป็นเวลา 18 ช.ม. อาจไม่เท่ากับ SMS ที่ส่งไปทำให้ คนรักยิ้มได้
60. ไม่มีสูตรใดบนโลกจะเอามาใช้คำนวณได้ว่า คนที่เป็นแฟนเรา รักเราแค่ไหนกัน
61. ยาที่ดีที่สุดเวลาที่ทะเลาะกับแฟนคือ "การนึกถึง 10 นาทีแรกที่ได้เป็นแฟนกัน"
62. เมื่อถึงเวลาที่ไม่เข้าใจกัน ไม่มีคำพูดใดๆ ดีกว่า คำว่า "ขอโทษ"
63. พร่ำบอกรัก พันล้านครั้ง ไม่เท่า บอกรักจากใจ แค่ครั้งเดียว
64. สำหรับผู้หญิง แหวนที่นิ้วนางซ้าย คือเครื่องหมายแห่งความผูกพัน
65. สำหรับผู้ชาย แหวนที่นิ้วนางซ้าย คือเครื่องหมายแห่งการตีตรา
66. คนที่ฆ่าตัวตายเพราะความรัก คือคนที่ไม่เคยเห็นค่าและไม่รู้จักในความรักเลย
67. บางคนเปรียบผู้หญิง เหมือนหนังสือ ที่รอให้มีคนมาค้นหาอ่าน บางคนอาจเป็นแค่กระดาษเพียงแค่แผ่นเดียว ในขณะที่บางคน อาจเป็นหนังสือ หลายหมื่นหน้าที่จะไม่มีวันอ่านหมด ... แล้วคุณรู้บ้างไหม? ว่า แฟนคุณ อ่านไปถึงหน้าไหนแล้ว???
68. ไม่มีคน ที่ไม่มีความรัก บนโลก
69. ทางออกที่ดีที่สุดเมื่อเริ่มจะรัก คือ เชื่อในความรัก ของเขา ให้เท่ากับของเรา
70. การกอด เป็นการแสดงความรักที่อบอุ่นที่สุด
71. ความรักกับมิตรภาพ เมื่อนำมาชั่งน้ำหนัก ล้วนเท่ากัน แต่คนที่ทำให้มันแตกต่างกัน คือ การกระทำของคุณ
72. หนังรักที่ดังและดีที่สุดในประเทศไทยคือ Noting Hill และ My Sassy Girl
73. เก็บคำว่า "ขอโอกาส" เอาไว้ ถ้าคำว่า "ขอโทษ" ยังไม่หลุดออกจากปากของคุณ
74. ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบคำว่า "โกหก"
75. ไม่มีผู้ชายคนไหนชอบคำว่า "เธอดีเกินไป" และ "เราไปด้วยกันไม่ได้"
76. เพื่อนกับแฟน มีลักษณะคล้ายๆกัน ในขณะที่ เพื่อนมี มิตรภาพ และ แฟน มี ความรัก
77. ความรักที่แท้จริง ไม่มีเหตุผล ของการรักกัน
78. จงอย่าถาม ว่า "รักเราไหม?" แต่จงถามว่า "รักแค่ไหน?"
79. ความรัก ของพ่อแม่มีอยู่ในทุกที่.. แล้วความรักของเราอยู่ตรงไหน?
80. อย่าสนใจว่า "เราจะรักกันนานแค่ไหน?" แต่จงคิดว่า "เราจะรักอย่างไร?"
81. อย่าคิดถึงวันพรุ่งนี้ แต่จงคิดถึง ความรัก ในอีก สิบนาทีข้างหน้า
82. ถ้ามีอะไร จะสารภาพ อย่ารอให้ กำลังจะตาย แล้ว ค่อยโทรไปบอก
83. ไม่มีคำว่า "สายไป" สำหรับความรัก มีแต่คำว่า "มันไม่มีทางแล้ว" เท่านั้น
84. คนพิเศษ ไม่จำเป็นต้องพิเศษ สำหรับใคร แต่ พิเศษสำหรับเรา
85. ไม่มีความรักที่สมบูรณ์แบบ
86. ถ้าแค่การพูดคำว่ารัก มันยากนักล่ะก็ จงเก็บความเสียใจ เอาไว้ ตลอดไป ไว้คู่กัน
87. คุณไม่รู้หรอกว่า เขาจะเป็นเช่นไร จนกว่า คุณจะได้รักเขา
88. อย่าให้เขา และเรา เป็น คนนำ แต่จงให้ความรักเป็นตัวนำพาไป
89. อย่า มอง ความรักเป็นแค่คำพูดคำหนึ่ง ให้มอง ความรัก เป็น คำที่มีความหมายสำหรับเรา
90. ไม่มีใครรู้จักอีกฝ่ายหนึ่งได้ภายในวันเดียว ไม่งั้น คุณคงต้องต่อสายเสียบปลั๊ก แล้ว ดาว์นโหลด ข้อมูลจากอีกฝ่ายมา
91. ความรักที่อยู่ห่างไกลกันไม่มีในโลกยุคนี้ ถ้าคุณ ยังรู้จัก โทรหา ส่ง Mail หรือ SMS ให้แก่กันบ้าง
92. ความคิดถึง เกิด ขึ้นเพราะ ความรักที่ไม่มีที่ระบาย.. และเป็นเพียง ส่วนประกอบเล็กๆ น้อยๆของความรัก
93. จงอย่าพูดว่า "แค่นี้หรือ?" ... และ "เท่านี้หรือ?" จงพูดว่า "นี่คือเหตุผลหรือ?"
94. พื้นฐานของความรักที่ดี ประกอบ ด้วย "ความเชื่อใจ" "ความเข้าใจ" และ "การตัดสินใจ"
95. ทุกครั้งที่คุณจะถามอะไร กับคนรัก จงยอบรับและทำความเข้าใจในสิ่งที่เขาจะตอบเสียก่อน
96. ของขวัญ ในทุกโอกาส ไม่ใช่ตัววัดระดับความรัก แต่เป็นการแสดงออกรูปแบบหนึ่ง
97. ความผิดพลาดในความรัก มันจะเป็นแค่บทเรียน ถ้าทำความเข้าใจมัน
98. จงเชื่อในความรัก ก่อนที่จะ เชื่อในเหตุผล
99. สุดท้าย ความรักสำหรับผม ไม่ใช่สิ่งที่สวยงามหรือไม่สวยงาม ไม่ใช่ สิ่งที่ดี หรือไม่ดี ไม่ใช่ ดอกไม้ ไม่ใช่ภูเขา ไม่ใช่ท้องฟ้า ไม่ใช่ สายลม และพายุ ไม่ใช่ ใครสักคน ไม่ใช่หนังสือ ไม่ใช่ซีดี ไม่ใช่คำพูด หรือ การกระทำ ไม่ใช่ ชีวิต ไม่ใช่ สิ่งของ และไม่ใช่โลกใบนี้..แต่มันเป็น เพียง
"ความรู้สึก.. สำหรับ คนที่คุณรัก..เท่านั้น.."

10 คำถามยอดฮิต ในการ สัมภาษณ์งาน

10 คำถาม ที่เค้านิยมจะถามกัน โดยมากที่คุณ ควรจะเตรียมพร้อม เพราะอย่างน้อย ถ้าไม่ได้ คำถามอื่น ก็ยังพอมีคำถามที่เราตอบแล้ว ฟังดูเข้าท่าเข้าทางบ้าง ฉะนั้นคำถามที่คุณ ควรจะรู้ มีดังต่อไปนี้


1.ทำไมคุณจึงอยากทำงานที่นี่

การที่จะทำงานทีไหนก็ตาม ผู้สัมภาษณ์จะต้องถามความเป็นมา ว่าทำไม คุณต้องการ ที่จะทำงาน ในบริษัทของเค้า และคำถามนี้ก็เป็น สิ่งที่คุณควร ทราบ และคุณก็ควรจะรู้ถึงเหตุผลของคุณอย่างแท้จริง ไม่ไช่ตอบไปสุ่มสี่สุ่มห้า เช่นคุณอาจจะตอบว่า

"ดิฉันมีความสนใจในระบบการทำงานของที่นี่มาก และก็ทราบมาว่า ทางบริษัท ได้เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคน ได้แสดงความสามารถ ได้อย่างเต็มที่ค่ะ และดิฉันยังทราบมาอีกว่า ที่บริษัทรับฟังข้อเสนอ ของพนักงานทุกคน และ พร้อมจะแก้ไขถ้าข้อเสนอนั้น จะสามารถ พัฒนา ให้บริษัทให้มีความมั่นคง และหน้าเชื่อถือยิ่งขึ้นค่ะ"

2.ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เคยทำอยู่

คำถามนี้จะง่ายมาก สำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่เคยทำงานมาก่อน แต่จะเป็นคำถาม ที่ยากมาก สำหรับคนที่เคย มีประสบการณ์ ในการทำงานมาแล้ว และเป็น คำถามที่ตรงประเด็น มากเลยทีเดียว เพราะหากคุณพอใจ ต่องานที่ทำอยู่ คุณคงไม่ต้องหางานใหม่ ทำหรอกจริงไหมล่ะ คำถามนี้จึงเป็นคำถาม ที่คุณ ต้องเตรียมตัวอย่างมาก เลยทีเดียว ตัวอย่างเช่น

"ผมอยากจะเรียนรู้ถึงงานสายใหม่ ที่น่าจะเหมาะสมกับตัวผม มากกว่า ที่ผม เคยทำอยู่ครับ และผมคิดว่างานที่นี้ เหมาะสมกับผม และผม พร้อมที่จะทำงาน ตรงนี้มากที่สุด"

และที่สำคัญ คุณห้ามนำข้อเสีย ที่คุณได้รู้จาก บริษัทเก่า มาพูดเด็ดขาด เพราะสิ่งนั้น อาจทำให้คะแนน แห่งความเชื่อถือ ของคุณ ลดลงก็ได้

3.ลองเล่าประวัติของคุณแบบย่อ ๆ

การที่จะทำงานร่วมกันได้นั้น สิ่งที่สำคัญ ก็จะเป็นเรี่อง ข้อมูลส่วนตัว ประวัติ ความเป็นมา เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถบ่งบอกถึง นิสัยใจคอของคุณได้ และ สามารถบอกถึง ความเหมาะสม กับงานด้านนี้ของคุณ ในการตอบคำถาม จึงควรอยู่ในแง่ของ การทำงาน บุคลิกภาพส่วนตัว และแง่คิดของชีวิต บ้างนิดหน่อย คุณไม่ควรจะเล่าประวัติชีวิตของคุณให้มากเกินไป เพราะการพูดมากเกินไป อาจจะทำให้เกิดผลเสียแก่ตัวคุณเอง เช่น

" ผมเป็นคนเคารพเวลา ไม่ชอบให้ใครรอ เพราะฉะนั้นเวลาในการ ทำงานของผม จะตรงต่อเวลาเสมอ แต่ผมก็มีข้อเสียนะครับ คือเวลา ที่ผมรอใคร แล้วคนคนนั้น ไม่มาสักที ผมก็มักจะควบคุมอารมณ์ ของตัวเอง ไม่ค่อยได้ทั้ง ๆ ที่เหตุผลของเค้า เป็นเหตุผลที่น่าฟังมาก ก็ตาม และตอนนี้ผมกำลังหาวิธี เพื่อแก้ไข ข้อบกพร่องของผมอยู่ครับ"

4.คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด

คำถามนี้จะทำให้คุณบอกถึง ความสามารถของคุณ ที่จะทำให้กับบริษัท ได้มากน้อยแค่ไหน ในการบอกถึงคุณสมบัติ ที่คุณสามารถทำได้นั้น ไม่ถือว่า เป็นการโอ้อวดว่า คุณเก่งแต่อย่างไร แต่สิ่งที่คุณพูดนั้น จะสามารถสร้าง น้ำหนัก ในการตอบคำถามให้แก่คุณได้

5.จะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา

เจอคำถามนี้เข้า ก็ทำให้อึ้งเอาการ อยู่ทีเดียว ก็แหมใครอยากจะไป ทำงาน ล่วงเวลา หากไม่ได้ อะไรตอบแทนบ้างเลย ฉะนั้นในการตอบคำถามนี้ คุณควรจะกล่าวถึง ความพร้อมเสมอ ในการทำงานล่วงเวลา ถึงแม้ว่า ค่าตอบแทน อาจจะน้อยมาก หรือในการทำงานล่วงเวลา จะไปตรงกับ ตารางนัดสำคัญ กับคนพิเศษของคุณก็ตาม

"เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ ผมก็พร้อมจะทำงาน ล่วงเวลาเสมอ"

6.เรื่องทั่ว ๆ ไป

ในการสัมภาษณ์คุณอาจจะต้องพูดถึง เรื่องปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ข่าวทาง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และค่านิยม ที่เกิดขึ้นในเวลานั้น เป็นข่าว หนังสือพิมพ์ คำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่า คุณให้ความสนใจกับข่าวสาร บ้านเมือง ไม่เป็นคนที่ตกข่าว สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่อง ที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ปัจจุบัน การทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจทำให้คะแนน การสัมภาษณ์ ของคุณ เพิ่มขึ้นมาก็ได้

7.ความใฝ่ฝันและโครงการในอนาคต

เป็นการพิจารณาถึง ความเอาจริงเอาจังของคุณ เพราะหากคุณสามารถบอกถึง ทิศทางในอนาคตได้ นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบ ในงานที่ได้รับ มอบหมายอย่างดีทีเดียว ก็ขนาดอนาคตที่ไม่มีใคร สามารถรู้ได้ คุณยัง วางแผนสู่อนาคต ได้อย่างเป็นระบบ นั่นก็หมายถึงว่า คุณไม่ได้มีความคิด ย่ำอยู่กับที่จริงไหม

8. คุณมีงานอดิเรกอะไรไหม

คำถามในข้อนี้จะเจาะประเด็นว่า คุณรู้จักแบ่งเวลาของคุณ ให้เกิดประโยชน์ มากน้อยแค่ไหน และแสดงให้เห็นถึง บุคลิกของคุณว่า คุณเป็นคนอย่างไร ร่าเริง เปิดเผย หรือเก็บตัว เช่น ถ้าคุณตอบว่า คุณชอบอ่านหนังสือ คุณอาจจะ ถูกถาม ต่อว่า หนังสือเล่มล่าสุดที่คุณอ่าน คือเรื่องอะไร และอาจให้คุณวิจารณ์ ถึงหนังสือเล่มนั้น ในการถามคำถามนี้ ยังสามารถได้รู้ถึง ความละเอียด อ่อนของคุณ การรู้จักสังเกต การมีปฏิภาณไหวพริบ กระทั่ง การใช้ชีวิต ร่วมกับคนอื่น ๆ อีกด้วย

9. คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่

เป็นเรื่องที่ยากมาก ในการตอบคำถามนี้ ถ้าหากว่า งานที่คุณไปสมัคร ระบุ เงินเดือนไว้แล้ว ก็เกิดความสบายใจหน่อย แต่ถ้าไม่ได้ระบุถึง อัตรา ค่าจ้างเลย ก็แย่หน่อย ทางที่ดีคุณควรตอบ ตามอัตราเงินเดือน ที่คนทั่วไป ได้รับกัน เช่น อาจจะถามเพื่อน ที่ทำงาน เหมือนกับตำแหน่ง ที่คุณสมัคร หรือตอบตาม เงินเดือนราชการ ที่คุณทราบก็ได้ แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์ เสนอเงินเดือน มาสูง หรือต่ำกว่า อัตราที่คุณรู้ คุณก็อย่าพึ่งตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการ พิจารณาสัก 3 วัน แล้วค่อยให้คำตอบ เพราะถ้า เกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นคนโลเล ไม่น่าเชื่อถือก็ได้

10. คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม

เจอคำถามนี้ก็บ่งบอกว่า การสัมภาษณ์ได้สิ้นสุดลง แต่ในการตอบคำถาม ข้อสุดท้ายนี้ จะตอบอย่างไรดี ที่จะแสดงว่า เราไม่เป็นคนไม่ฉลาดออกมา เช่น คุณอาจถามย้ำ เรื่องเวลาการทำงานก็ได้

"ผมอยากทราบเวลา ที่แน่นอน ในการทำงานของผมครับ"

หรือคุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะการ ไม่ได้ถามก็เท่ากับว่า คุณได้ทราบข้อมูล ของบริษัทมากพอแล้ว แต่ถ้าเกิด สงสัยจริง ๆ ก็ควรตั้ง คำถามที่ฟังแล้วดูดี และถูกใจนายจ้างของคุณ ให้มากที่สุด


คำถามที่พูดมาข้างต้นนี้ดู ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหม สำหรับการเตรียมตัว ในการ สัมภาษณ์ของคุณ แค่คุณมีความพร้อมกับ 10 คำถามเด็ด ๆ นี้ คุณก็สามารถ ชนะใจ กรรมการ ได้แล้ว อย่างน้อยมันคงมีสักคำถามล่ะ ที่ตรงกับการเตรียมตัวของคุณ และสร้าง ความมั่นใจ ในการตอบคำถามของคุณได้ แล้วอย่าลืมนำไป ปฏิบัติดูนะ เพราะสิ่งนี้ เป็นเส้นทาง ที่จะทำให้คุณสามารถได้รับ คัดเลือกเป็นพนักงาน ในบริษัทที่คุณใฝ่ฝัน ได้อย่างภาคภูมิใจ